ต่อไปก็คือจิตตะ กำลังใจปักมั่นอยู่กับเป้าหมายไม่คลอนแคลนเด็ดขาด จนกว่าจะสำเร็จสมความประสงค์ของตน ถ้าหากว่ากำลังใจของเรามุ่งมั่น สมมติว่าตั้งใจว่าเราจะปฏิบัติสมาธิภาวนา เพื่อทรงฌานระดับใดระดับหนึ่งให้ได้ แล้วเราก็มุ่งมั่นตั้งหน้าตั้งตาทำไป
ไม่ว่าจะมีสิ่งมาล่อใจน่าสนใจขนาดไหนเราก็ไม่ไปใส่ใจ กิเลสจะชวนเราไปดูหนังดูละคร จะไปเที่ยวจะไปกินที่ไหนเราไม่ไป เพราะกำลังใจของเราปักมั่นอยู่กับเป้าหมายว่าต้องทำให้สำเร็จ ถ้าหากว่าเป็นดังนี้ โอกาสที่เราจะกระทำได้สำเร็จก็มีมาก
ข้อสุดท้ายคือวิมังสา ต้องไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอว่า เราตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะทำอะไร ตอนนี้เราทำไปถึงไหน สิ่งที่ทำได้มีมากน้อยเท่าไร ปัจจุบันนี้เรายังมุ่งตรงต่อเป้าหมายนั้นหรือไม่ เหลือระยะหรือว่าเหลือสิ่งที่จะต้องทำอีกมากน้อยเท่าไร ถ้ามีการทบทวนตนเองอย่างนี้ไว้เสมอ เราก็จะไม่หลงทิศ หลงทาง หลงเป้าหมาย
เมื่อมีความพอใจที่จะทำ มีความพากเพียรที่จะทำ จิตใจปักมั่นไม่ย่อท้อ ทบทวนอยู่เสมอว่าทำอะไร เพื่ออะไร ทำไปถึงไหน เหลืออีกมากน้อยเท่าไรดังนี้ โอกาสที่ความตั้งใจรับปีใหม่ของแต่ละคนก็สามารถที่จะสำเร็จได้สมประสงค์
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ความตั้งใจของเราที่ไม่สำเร็จนั้น เกิดจากการขาดหลักธรรมสำคัญคืออิทธิบาท ๔ และโดยเฉพาะว่าเมื่อทำไปแล้ว ไม่ได้รักษากำลังใจให้ต่อเนื่อง ก็คือขาดตัวจิตตะที่ปักมั่นต่อเป้าหมาย ขาดตัววิริยะ คือความพากเพียรที่จะกระทำไปโดยไม่ย่อท้อ
ดังนั้นในวันนี้ ฉวยโอกาสที่เรามาปฏิบัติธรรมครั้งแรกในปีใหม่ ปี ๒๕๕๕ นี้ ถ้าหากว่าทุกท่านตั้งเป้าหมายในชีวิต ว่าปีนี้เราจะทำอะไรให้สำเร็จ ก็จะได้ถือโอกาสนี้ยึดสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นแนวทาง ว่าเราต้องทำอย่างไร จึงจะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของตนได้สมกับความตั้งใจ ถ้าหากว่าเป็นดังนี้ได้ สิ่งอื่น ๆ ที่ท่านทั้งหลายได้ตั้งความหวังเอาไว้ ก็จะพลอยสำเร็จไปด้วย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2012 เมื่อ 13:13
|