ดูแบบคำตอบเดียว
  #29  
เก่า 09-02-2011, 08:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ขั้นที่ ๑ ขั้นที่ ๒ โยมจะค่อย ๆ สอนเด็ก อยากให้ท่านช่วยแนะนำค่ะ ตอนนี้โยมประยุกต์พุทธกับวิทย์ มาบูรณาการร่วมกันให้ทันสมัยขึ้น
ตอบ : ทางที่จะทำให้เด็กสนใจก็คือ ให้เขาสนุกก่อน การที่จะให้เขาสนุก อย่างเช่นใช้ดนตรี หรือไม่ก็อาจจะมีการออกกำลังควบกับสมาธิ อย่างคนจีนเขามีพวกไท้เก๊ก ชี่กง เรื่องพวกนี้อาจจะทำให้เด็กสนุกและเริ่มสร้างสมาธิขึ้นมาได้

ถาม : ถ้าเด็กเขามีจิตสัมผัสที่ละเอียดขึ้น อย่างขั้นที่ ๑ โยมไม่ค่อยเป็นห่วงในการสร้างให้เด็กมีสัมผัสที่ละเอียดขึ้น อันนี้โยมมีผลงานวิจัยรับรองผลแล้ว แต่พอมาถึงสภาวะหนึ่ง เด็กเขาจะเกิดการรับรู้ อายตนะ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

ภาพที่เขาได้เห็นหรือได้ยินเข้ามา จะมีอยู่สองประเภท คือ เขาโดนหลอกกับเป็นของจริง ตรงนี้จะทำให้เขาแยกได้อย่างไรคะ ?
ตอบ : ผู้ใหญ่ยังแยกไม่ออกเลย..! คือ คนหลอกเขาเป็นสุดยอดฝีมือเลย เขาวางหมากกี่ชั้น เขาสามารถจะกินเราได้ทุกชั้นเลย ต้องยอมรับว่าแม้แต่ตัวอาตมาเองยังโดนหลอกอยู่ตลอดเวลา

เพราะฉะนั้น...เราจะทำให้เด็กเขาเข้าใจอย่างไรนั้น อย่าเพิ่งเอาผลตรงนั้นดีกว่า เราเอาผลตรงที่ว่า เมื่อเด็กมีจิตที่สงบลง ความเปลี่ยนแปลงอันดับแรก สมาธิดีขึ้น อาจจะมีผลการเรียนดีขึ้น และความประพฤติเปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้นด้วย

เราเลือกมาวัดทางด้านนี้จะดีกว่า ถ้าจะไปเอาตรงจุดนั้น แม้แต่อาตมาก็ยังโดนหลอกมาตลอดเลยจ้ะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-02-2011 เมื่อ 09:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา