ดูแบบคำตอบเดียว
  #84  
เก่า 23-06-2009, 12:19
ป้านุช's Avatar
ป้านุช ป้านุช is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: Bangkok Thailand
ข้อความ: 866
ได้ให้อนุโมทนา: 21,453
ได้รับอนุโมทนา 109,675 ครั้ง ใน 2,785 โพสต์
ป้านุช is on a distinguished road
Default

พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า ดูก่อนพระนาคเสน พระโพธิสัตว์ เช่น พระเวสสันดร สิ้นความรักใคร่ในบุตรภรรยาแล้วหรือ จึงบริจาคบุตรภรรยาให้เป็นทาน
พระนาคเสนทูลตอบว่า ขอถวายพระพร ความเป็นจริงก็คือ พระโพธิสัตว์ยังรักใคร่เมตตากรุณาบุตรภรรยาเช่นเดียวกับที่ผู้อื่นรักบุตรภรรยาของตน
ดังนั้น เมื่อพระเวสสันดรทอดพระเนตรเห็นพราหมณ์เฆี่ยนตีพระธิดาและพระโอรส คือ กัณหากับชาลี จึงทรงสลดพระทัยและบันดาลโทสะจะประทุษร้ายต่อพราหมณ์บ้าง
แต่แล้วก็ทรงอดกลั้นความโกรธนั้นเสียได้ ทั้งนี้ก็เพราะ ท่านมีใจผูกพันในพระสัมมาสัมโพธิญาณมากกว่าความรักบุตรภรรยา
เพราะท่านแน่ใจว่า ภายภาคหน้าพระสัมมาสัมโพธิญาณจะเกิดประโยชน์สุขแก่ตนพร้อมด้วยบุตรภรรยาตลอดจนบุคคลอื่น ๆ ด้วยหลายเท่า
ท่านจึงหักใจทำการบริจาคทานนั้น


ม. แต่ตอนที่พระเวสสันดรทรงบริจาคพระนางมัทรีและกัณหาชาลีนั้น พระชายาตลอดจนพระโอรสและธิดาทรงยินดีในทานนั้นด้วยหรือ
น. พระนางมัทรีนั้นทรงยินดีในทานครั้งนี้ด้วย แต่กัณหาชาลีหาได้ทรงยินดีไม่ ด้วยยังทรงพระเยาว์ไม่รู้เดียงสาอะไร

ม. ถ้าเช่นนั้น การทำทานของพระเวสสันดรก็เท่ากับทำความทุกข์ยากให้สองพี่น้อง เมื่อทานของตนทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนแล้วจะเกิดบุญกุศลได้อย่างไรเล่า
น. อาตมภาพขอทูลถามพระองค์ว่า เมื่อพระองค์ทรงบัญชาให้เก็บภาษีจากราษฎรทุกคน เพื่อนำมาสร้างสาธารณประโยชน์นั้น
ราษฎรบางคนก็ฝืนใจถวายเพราะความขัดสนบังคับบ้าง หรือเพราะเหตุอื่นบ้าง แต่สาธารณะประโยชน์ที่พระองค์กระทำขึ้นนั้น สำเร็จลงตามพระราชประสงค์หรือไม่


ม. สำเร็จลง และเป็นประโยชน์แก่ทุกคน
น. ฉันใดก็ฉันนั้น การที่พระเวสสันดรทรงบริจาคพระชายาและพระโอรสธิดานั้น แม้จะทำให้เกิดความทุกข์ใจลำบากกายแก่กัณหาชาลีก็จริง
แต่ทานบารมีที่ได้กระทำนั้นเป็นปัจจัยให้เกิดประโยชน์สุขอันยิ่งใหญ่แก่พระองค์และบุคคลอื่น ๆ โดยทั่วไปในกาลข้างหน้า
เมื่อเป็นดังนั้น ทานบารมีนั้นต้องจัดเป็นบุญกุศล


ม. แต่คิดดูจะเห็นว่า ทานที่พระเวสสันดรกระทำนั้นเกินสมควร เหมือนคนบริโภคอาหารเกินประมาณ
น. จะจัดว่าเกินสมควรไม่ได้ เพราะทานขนาดนี้จึงเป็นปัจจัยให้พระองค์ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณในกาลต่อมา

ม. มีอะไรกำหนดความสมควรหรือว่าทานขนาดไหนจะให้ผลแค่ไหน ที่จริงใครมีจิตเลื่อมใสเท่าใดก็ควรให้ไปเท่านั้น
น. ขอถวายพระพร เมื่อบิดาเป็นหนี้เขา จะให้บุตรรับใช้หนี้แทนเพื่อเปลื้องตนให้เป็นไทจะได้หรือไม่

ม. ได้สิพระคุณเจ้า
น. ฉันใดก็ฉันนั้น พระเวสสันดรทรงตั้งพระหฤทัยอยู่เสมอว่า จะทรงบำเพ็ญทานบารมีให้เต็มเปี่ยม ยาจกมาขออะไรก็จะทรงบริจาคให้ทั้งนั้น
เมื่อทรงผูกพระราชหฤทัยเป็นหนี้รัดพระองค์ไว้เช่นนั้นแล้ว ครั้นมียาจกมาขอพระชายาและพระโอรสธิดา
ก็ทรงมีหน้าที่ต้องชำระหนี้นั้น ขอถวายพระพร การกระทำเช่นนี้จึงถือว่าไม่เป็นการเกินควร


ม. เหตุใดพระเวสสันดรไม่ทรงบริจาคตัวเองเป็นทานเสียเล่า จะได้ไม่เดือดร้อนผู้อื่น
น. ขอถวายพระพร เมื่อยาจกมาขอน้ำก็ต้องให้น้ำ ขอข้าวก็ต้องให้ข้าว เมื่อยาจกเจาะจงขอพระชายาและพระโอรสธิดา ก็ต้องมอบให้เขาไป
ขอถวายพระพร แต่ถ้าหากยาจกทูลขอเจาะจงที่ตัวพระเวสสันดร พระองค์ก็ยินดีจะมอบให้ทันที
เพราะพระองค์มีพระหฤทัยผูกพันกับพระสัมมาสัมโพธิญาณยิ่งกว่าสิ่งอื่น ทรงพร้อมและยินดีบริจาคแม้ชีวิตและความสุขของพระองค์
เพื่อแลกกับพระสัมมาสัมโพธิญาณอยู่ทุกขณะ ข้อนี้พึงพิสูจน์ได้จากการกระทำของพระองค์ตั้งแต่ต้นจนตลอด(เวสสันตรปัญหา)


ม. พระคุณเจ้าว่านี้ชอบแล้ว
__________________
เสียงธรรมจากพระองค์ที่ ๑๐
ธรรมพระพุทธเจ้า คือธรรมชาติ ธรรมชาติที่ทุกคนก็มีอยู่ในตัวเอง
เพราะฉะนั้นเธอก็มีธรรมะ ฉันก็มีธรรมะ เธอกับฉันมีธรรมเสมอกันคือความตาย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 19 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ป้านุช ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา