ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 14-01-2019, 20:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,209 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเห็นโทษของการเกิดก็จะเกิดความเบื่อ ถ้าสามารถประคับประคองรักษาความเบื่อไปได้ระยะหนึ่ง เมื่อปัญญาเกิดก็จะเห็นว่า ธรรมดาของการเกิดมาเป็นเช่นนี้ จะต้องพบแต่สิ่งที่น่าเบื่อหน่าย สิ่งที่เป็นทุกข์เช่นนี้ สภาพจิตก็จะตัดละว่า ขึ้นชื่อว่าการเกิดจะไม่มีสำหรับเราอีกแล้ว ตายเมื่อไรเราปรารถนาที่เดียวคือพระนิพพาน

ก็จะเอาจิตสุดท้ายเกาะพระนิพพาน หรือเกาะภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยที่กำหนดว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้อยู่ที่ใดนอกจากบนพระนิพพาน เราเห็นพระองค์ท่านคือเราอยู่กับพระองค์ท่าน เราอยู่กับพระองค์ท่านคือเราอยู่บนพระนิพพาน จิตสุดท้ายของเราจะอาศัยตรงนี้เป็นหลัก

ถ้าหากว่ายังมีลมหายใจเข้าออกเราก็ดูลมหายใจ ถ้ายังมีคำภาวนาก็ใช้คำภาวนาควบคู่ไปด้วย ถ้าไม่มีลมหายใจ ไม่มีคำภาวนา ก็กำหนดใจจดจ่อแนวนิ่งอยู่ที่ภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเฉพาะภาพพระนิพพาน

ในแต่ละวันพยายามรักษากำลังใจอยู่ตรงจุดนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เมื่อถึงเวลากำลังกิเลสที่กินเราก็จะลดน้อยถอยลงไปด้วย ด้วยอำนาจของ ศีล สมาธิ ปัญญา แล้วท้ายสุดเมื่อปัญญาของเรามีมาก กำลังสมาธิมีสูง เราก็สามารถสลัดหลุดพ้นจากการร้อยรัดของกิเลสทั้งหลาย เข้าสู่พระนิพพานได้ตามต้องการ

ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม,ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๒

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2019 เมื่อ 13:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา