ดูแบบคำตอบเดียว
  #108  
เก่า 23-03-2017, 22:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,203 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถามว่า "บทบังสุกุลตายกับบังสุกุลเป็น บทไหนเกิดก่อน ? บังสกุลเป็นเกิดก่อน จริง ๆ แล้วเป็นคำสอนที่พระพุทธเจ้าประทานให้พระปูติคัตตติสสะ ในอดีตชาติท่านเป็นพรานนก พอจับนกได้ก็หักขา หักปีก นกจะได้ไม่บินหนี พอมาชาตินี้ ถึงมาบวชแล้วกรรมเก่าก็ยังตามทัน

ในบาลีท่านบอกว่าเกิดเป็นฝีตามร่างกาย แรก ๆ ก็โตประมาณเม็ดน้อยหน่า หลังจากนั้นก็โตขึ้นจนเท่าผลมะตูมแล้วก็แตก โลหิตและหนองไหลไปทั้งกาย เมื่อเหม็นเน่ามาก บรรดาพระก็ทิ้ง ไม่มีใครดูแล ปูติคัตตะคือผู้มีกายอันเน่า อาตมาคาดว่าน่าจะเป็นมะเร็ง เพราะว่าแตกทั่วตัวเลย น่าจะประเภทมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

ในเมื่อโดนทิ้ง พระพุทธเจ้าทรงทราบก็เสด็จไปเอง ให้พระอานนท์ต้มน้ำร้อน ผสมน้ำอุ่นด้วยพระองค์เองแล้วก็เช็ดตัวให้ พระอื่นพอทราบข่าวก็จะไปแย่งกันทำ พระพุทธเจ้าตรัสว่าไม่ต้อง พระองค์ท่านจะทำเอง เมื่อเช็ดตัวเปลี่ยนผ้าให้เรียบร้อย ท่านติสสะก็รู้สึกสบายขึ้น

พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า อจิรํ วตยํ กาโย ปฐวี อธิเสสฺสติ แปลความว่า ติสสะ...ขอให้เธอจงดูกายนี้ ซึ่งอีกไม่นาน เมื่อปราศจากวิญญาณแล้ว ก็เหมือนกับขอนไม้ที่นอนกลิ้งอยู่บนพื้นดิน พระติสสะท่านพิจารณาธรรมตามนั้น...เห็นจริง จิตปลดจากการยึดเกาะร่างกาย กลายเป็นพระอรหันต์พร้อมกับสิ้นชีวิต

ลักษณะของการเป็นพระอรหันต์แล้วมรณภาพเลย ในบาลีเขาเรียกว่า สมสีสี [สะ-มะ-สี-สี] ก็คือบรรลุมรรคผลพร้อมกับการดับของสังขารร่างกาย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-03-2017 เมื่อ 02:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา