ดูแบบคำตอบเดียว
  #116  
เก่า 23-08-2010, 20:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,645 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าเรื่องการธุดงค์ให้ฟังว่า "ตอนนั้นเข้าป่าห้วยขาแข้ง เดินสวนกับพระธุดงค์ ๔ รูป ท่านห่มดองผ้าสังฆาฏิ สะพายย่ามธุดงค์ หิ้วกาน้ำ แบกกลดมา ท่านตกใจมากเลย ที่เห็นพวกเราไปมีแต่อังสะตัวเดียวกับย่ามใบหนึ่ง

เขาถามว่า "ท่านมาทำอะไร?" ก็บอกไปว่า "มาธุดงค์เหมือนท่านนั่นแหละ และผมมั่นใจว่าผมอยู่ได้นานกว่าด้วย" แสดงว่าเขาไปดูรูปแบบพระรุ่นครูบาอาจารย์ เพราะเวลาธุดงค์จะอยู่ในรูปแบบนั้น เขาไม่รู้หรอกว่า นั่นไปถึงที่แล้วเขาแต่งตัวให้ถ่ายรูป เดินในป่าขนาดนั้นแล้วแต่งตัวเต็มยศ ไม่ต้องไปไหนไกลหรอก แค่บึงลับแลก็ขาดวิ่นแล้ว เพราะหนามเยอะมาก

ถ้าอ่านพระไตรปิฎกทั่วจริง ๆ ก็จะเห็นว่า ถึงเวลาพระเข้าไปในหมู่บ้าน จะใช้คำว่า มีมืออันถือบาตรและจีวร เมื่อเข้าไปถึงโคจรคามแล้ว ก็ห่มจีวรคลุมบ่า ซ่อนบาตรไว้ด้านใน ทำการโคจรบิณฑบาต ก็แปลว่าพระสมัยก่อนท่านก็ไปแบบเรา เพราะสมัยก่อนผ้าหายาก ถ้าหนามเกี่ยวขาด จะหาใหม่ก็หาไม่ได้ง่าย ๆ เหมือนสมัยนี้ อย่างของเราไปแบบโบราณแท้เลย

บางทีเวลาเดินไปเจอพระธุดงค์ก็รู้สึกสลดใจ พวกเราเคยเห็นย่ามธุดงค์ไหม ? ใบจะใหญ่มาก ของเขาใช้ไม้คานหาบย่ามธุดงค์ไป ๔ ใบ ถ้าของเราขนไปขนาดนั้นเท่ากับย้ายวัดไปแล้วนะ..! ยังสงสัยว่า ถ้าขนไปขนาดนั้นตกลงเขาจะไปทำอะไรกันแน่ จะไม่ยอมรับความลำบากกันเลยบ้างหรือ ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 24-08-2010 เมื่อ 09:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 141 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา