สิ่งทั้งหลายที่ว่ามานี้ จะว่าไปแล้วไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องเป็นการกระทำของบุคคลที่มีความจริงจังและสม่ำเสมอ ถ้าเอาตามที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านขอไว้ก็คือ เช้าภาวนา ๑ ชั่วโมง เย็นภาวนา ๑ ชั่วโมง ท่านบอกว่ายิ่งนานไป พวกเดียรถีย์นอกศาสนาจะจาบจ้วงพุทธศาสนามากขึ้นทุกที ท้ายสุดถึงขนาดลบล้างคำสอนของพุทธศาสนา กล่าวหาว่าอภิญญาสมาบัติเป็นเรื่องหลอกลวงกัน เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว พวกเราจะต้องออกไปแสดงให้เขาดูว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นความจริง
ดังนั้น...เราจึงต้องซักซ้อมเอาไว้ให้เคยชิน โดยการภาวนาควบกับลมหายใจเข้าออก ซึ่งบทภาวนาทั้งสองบทนั้น ไม่สามารถแบ่งลมหายใจเป็นคู่ได้สะดวก เราก็ภาวนายาว หายใจออกก็รู้ลมจนสุด หายใจเข้าก็รู้ลมจนสุด จะใช้คำว่าโสตัตตะภิญญาทีเดียวก็ได้ หรือจะวรรคเว้นอย่างไร เข้าออกอย่างไรก็แล้วแต่เรากำหนด แล้วแต่เราจะถนัด
ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันเสาร์ที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๙
(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้าอ่อน)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2016 เมื่อ 21:05
|