“พุทโธ” ทรงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว รู้อะไร ? รู้แจ้งในหลักธรรมทั้งหลาย รู้แจ้งในหลักธรรมทั้งหลายอย่างไร ? รู้ว่า
“สัพเพ สังขารา อนิจจา สัพเพ สังขารา ทุกขา สัพเพ ธัมมา อะนัตตา”
รู้ว่าสังขารทั้งหลายไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์ ธรรมทั้งหลายไม่สามารถยึดถือมั่นหมายเป็นตัวตนเราเขาได้ ทุกอย่างต้องเสื่อมสลายไปทั้งหมด
เป็นผู้ตื่นคืออะไร ? ก็คือตื่นจากอวิชชา ความโง่เขลาทั้งปวงที่ครอบคลุมกาย วาจา ใจอยู่ ในเมื่อตื่นจากความโง่เขลาที่ครอบคลุมกาย วาจา ใจอยู่ ก็แปลว่าพระองค์ท่านทรงรู้แจ้งแทงตลอด ทะลุอวิชชาอันหนาและมืดมิด ซึ่งครอบคลุมโลกทั้งหลายอยู่
พระองค์ท่านจึงทรงเปรียบเสมือนลูกไก่ตัวแรก ที่เจาะเปลือกไข่ออกมาสู่โลกภายนอก เมื่อเป็นเช่นนั้น พระองค์ท่านจึงเป็นใหญ่ยิ่งกว่าศาสดาทั้งหลาย สิ่งนี้เกิดจากพราหมณ์อาวุโสด้วยอายุ ได้กล่าวตำหนิติเตียนพระองค์ท่านว่า พระองค์ท่านเป็นผู้ที่อ่อนเยาว์กว่า แล้วทำไมถึงไม่ทำความเคารพผู้ที่อายุมากกว่า ?
ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถามว่า “ลูกไก่ที่เจาะฟองไข่ออกมานั้น ตัวใดควรที่จะเป็นพี่ใหญ่ ?” พราหมณ์ก็ตอบว่า “ลูกไก่ตัวแรก” พระองค์ท่านตรัสว่า “ในเมื่อตถาคตเจาะฟองไข่คืออวิชชาออกมาได้ก่อน จึงนับเป็นพี่ใหญ่ ดูแล้วตลอดทั้งโลกนี้และโลกอื่นไม่มีบุคคลใดที่ตถาคตจะควรจะทำความเคารพ ตถาคตจึงไม่ได้แสดงความเคารพต่อพราหมณ์” พราหมณ์เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยอมรับว่า สิ่งที่พระองค์ท่านตรัสไว้นั้นเป็นความจริง
เป็นผู้เบิกบาน ถ้าหากว่าตามฉันท์ที่เขาได้แต่งไว้สรรเสริญคุณพระองค์ท่านว่า “หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว ราคีบ่พันพัว สุวคนธกำจร” ก็คือพระหทัยของพระองค์ท่านเบิกบาน เหมือนอย่างกับดอกบัวที่ผ่องใสปราศจากราคี ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วทุกทิศทุกทาง ทั้งทวนลมและตามลม ดังนั้นผู้เบิกบานในที่นี้ก็คือว่า พระองค์ท่านปราศจากสิ่งร้อยรัดทั้งปวงแล้ว เมื่อปราศจากสิ่งร้อยรัดทั้งปวง ก็ย่อมเป็นผู้ที่เบิกบานแจ่มใส เพราะว่าไม่มีสิ่งใดสามารถถ่วงรั้งพระองค์ท่านให้อยู่ในวัฏสงสารนี้ต่อไปได้อีก
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
|