ดูแบบคำตอบเดียว
  #58  
เก่า 18-12-2011, 14:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,378 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อะไรที่หายาก...อะไรที่แปลกประหลาด เขามักจะถือว่าขลัง กลายเป็นความเชื่อ คราวนี้ความเชื่อไม่ใช่ความจริง การเชื่อว่าดอกตะไคร้เป็นมหาเสน่ห์ ก็เป็นแค่ความเชื่อ อาจจะเป็นไปได้ว่า คนพกดอกตะไคร้แล้วเกิดความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ในเมื่อเกิดความมั่นใจมากขึ้น กล้าแสดงออก ถ้าเป็นการแสดงออกในด้านที่ดีคนก็ย่อมรักเป็นปกติ

แต่ถ้าจะเอามหาเสน่ห์ของพระพุทธเจ้า..ไม่ใช่อย่างนั้น มหาเสน่ห์ของพระพุทธเจ้าก็คือ สังคหวัตถุ ๔ มี ทาน ก็คือเสียสละให้ปันแก่ผู้อื่น พระองค์ท่านตรัสว่า ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ไม่ใช่รักแค่คนเดียวนะ คนที่เขารับของจากเราไป เขามีญาติพี่น้องกี่คน ถ้าเขาไปบอกว่าได้จากเรา ญาติพี่น้องเขาก็พลอยรักเราไปด้วย

ปิยะวาจา มีคำพูดที่น่ารัก ก็คือ เว้นจากการพูดโกหก เว้นจากการพูดส่อเสียด เว้นจากการพูดคำหยาบ เว้นจากการพูดวาจาไร้ประโยชน์ กล่าวแต่วาจาที่ดี ที่ถูก ที่ควร เหมาะสมแก่กาลเทศะเท่านั้น ในเมื่อมีวาจาดี วาจาไพเราะ คนได้ยินก็รัก

อัตถจริยา บำเพ็ญตนเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น อย่างที่พวกเราออกไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม จัดว่าเป็นอัตถจริยา คนนั้นเห็นก็มาขอความช่วยเหลือ คนนี้เห็นก็มาขอความช่วยเหลือ

ข้อสุดท้ายก็คือสมานัตตา เอาใจเขามาใส่ใจเรา เรารักสุขเกลียดทุกข์อย่างไร คนอื่นก็รักสุขเกลียดทุกข์อย่างนั้น เราปรารถนาให้คนอื่นปฏิบัติดีต่อเราอย่างไร คนอื่นก็ปรารถนาให้เราปฏิบัติดีต่อเขาอย่างนั้น

เพราะฉะนั้น..ถ้ามีครบ ๔ ข้อ เป็นมหาเสน่ห์แน่นอน พระพุทธเจ้าท่านสอนให้เราทำเสน่ห์ พอถึงเวลาก็จัดการเลย ใครเข้าใกล้ทำให้หลงเสน่ห์ของเราให้หมด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2011 เมื่อ 14:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา