๒. การเกิด-การตาย
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า ดูก่อนพระนาคเสน สัตว์ทุกจำพวกต่อเมื่อถึงวาระจึงตาย หรือว่าไม่ถึงวาระก็ตายเหมือนกัน
พระนาคเสนทูลตอบว่า ขอถวายพระพร ย่อมมีทั้งสองประการ อุปมาดังผลไม้ซึ่งหล่นจากต้นย่อมมีทั้งสุกและดิบ
ผลที่สุกแล้วไม่มีปัญหา แต่ผลที่ยังดิบอยู่เป็นเพราะเหตุใดจึงหล่น
ม. เป็นเพราะถูกหนอนไชบ้าง นกจิกกินเล่นบ้าง ถูกลมแรงพัดหล่นบ้าง
น. ขอถวายพระพร ผลไม้สุกที่หล่นก็เหมือนคนที่ตายโดยถึงอายุขัย ส่วนผลไม้ดิบที่หล่นเปรียบเหมือนคนที่ตายโดยยังไม่ถึงวาระ
ม. แต่ข้าพเจ้าเห็นว่า จะตายเมื่อใดหรือเพราะประการใด ก็เรียกว่าตายโดยวาระทั้งนั้น
น. หาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราเหตุแห่งความตายอาจจำแนกได้เป็น ๘ ประการ คือ
๑. โรคมีที่มาจากลม
๒. โรคมีที่มาจากช่องท้อง
๓. โรคมีที่มาจากเสมหะ
๔. โรคมีที่มาจากประสาท
๕. ความเปลี่ยนแปลงของฤดู
๖. บริหารอิริยาบถไม่สม่ำเสมอ
๗. ความเพียรของผู้อื่น และ
๘. ผลของบุพกรรม เว้นแต่ผลของบุพกรรม ความตายด้วยเหตุอื่น ๆ ถือเป็นการตายที่ยังไม่ถึงวาระ
ม. แต่ความตายจากเหตุอื่นทั้ง ๗ ก็อาจถือเป็นผลจากบุพกรรมได้มิใช่หรือ ดังนั้น จะตายอย่างไรก็ถือเป็นการตายตามวาระทั้งนั้น
น. อาตมภาพขอยกตัวอย่างมาเปรียบถวาย ไฟที่ดับเพราะสิ้นเชื้อถือเป็นการดับไปตามวาระใช่หรือไม่
ม. ใช่
น. ถ้าไฟยังลุกโชนอยู่ แต่เผอิญมีฝนตกลงมาจนไฟดับ จะถือว่าไฟดับตามวาระได้หรือไม่
ม.ไม่ได้ เพราะไฟยังมีเชื้ออยู่ จึงควรลุกต่อไปได้ตามปกติ แต่เหตุที่ดับเพราะมีฝนตกรดลงมา
น. ขอถวายพระพร ผู้ที่ตายด้วยเหตุ ๗ ประการเบื้องต้น ก็เช่นเดียวกับไฟที่ดับลงทั้ง ๆ ที่ยังมีเชื้ออยู่
เพราะหากไม่มีเหตุมาตัดรอน ชีวิตก็ย่อมยืนยาวต่อไปจนถึงอายุขัย ด้วยเหตุนี้ จึงถือว่าผู้ที่ตายด้วยเหตุหนึ่งใน ๗ อย่างข้างต้น มิได้ตายตามวาระ
ส่วนผู้ที่ตายเพราะเหตุแห่งอายุขัยดังไฟสิ้นเชื้อ ถือเป็นการตายตามวาระ (กาลากาลมรณปัญหา)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ป้านุช : 15-04-2009 เมื่อ 23:37
|