ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 23-07-2017, 19:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ความทุกข์ที่รุมเร้าเรานี้ มีมาตั้งแต่ก่อนเกิด คำว่าก่อนเกิดหมายความว่า ทันทีที่เราปฏิสนธิในท้องแม่ ก็โดนไฟธาตุของแม่เคี่ยวเผาเราอยู่ตลอดเวลา พระสีวลีท่านกล่าวว่า ตอนที่อยู่ในท้องแม่เหมือนกับอยู่ในหม้อนึ่ง ก็คือโดนอบโดนรมด้วยความร้อนอยู่ตลอดเวลาจากไฟธาตุของแม่ อยู่ในที่คับแคบ ปวดเมื่อยไปทั้งเนื้อทั้งตัว คลอดออกมาเจอความหนักความหนาวความร้อนของอากาศ ก็แสบร้อนไปทั้งผิวกาย เด็ก ๆ ที่เกิดมาจึงร้องไห้เสียงดังมาก

เมื่อเกิดมาแล้วเป็นอย่างไร ? สกปรกต้องชำระล้างร่างกาย หิวต้องกิน กระหายต้องดื่ม ปวดอุจจาระต้องถ่ายหนัก ปวดปัสสาวะต้องถ่ายเบา สกปรกโสโครกต้องชำระล้างร่างกาย ต้องหัดพลิกตัว หัดคืบ หัดคลาน หัดเดิน หัดยืน หัดวิ่ง พูดไม่ได้ก็พยายามฝึกหัดจนพูดได้ ต้องเล่าเรียนหนังสือ สิ่งทั้งหลายที่กล่าวมา ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ทับถมเพิ่มเติมเข้ามาในชีวิตของเรา ทำให้อยู่ในห้วงทุกข์ตลอดเวลา

เท่านั้นยังไม่พอ เราเองยังจะสรรหาคู่มา จากคนเดียวกลายเป็น ๒ คน จากขันธ์ ๕ กลายเป็นขันธ์ ๑๐ ตัวคนเดียวทุกข์คนเดียวยังไม่พอ หาทุกข์มาเพิ่มให้อีก จากที่จะกินจะนอนอย่างไรก็ได้ กลายเป็นมีคนให้ต้องห่วงต้องใยอยู่ตลอดเวลา เขาป่วยก็เหมือนกับเราป่วยไปด้วย อดตาหลับขับตานอนเพื่อดูแล

ถ้ายิ่งมีลูกเล็ก ๆ ขึ้นมาก็ยิ่งทุกข์หนัก ไม่ได้นอนเต็มตาแม้แต่คืนเดียว ต้องคอยดูแล คอยเลี้ยงดู คอยทำความสะอาด เจ็บไข้ได้ป่วย พ่อแม่ก็เหมือนกับจะขาดใจไปด้วย คอยช่วยรักษาพยาบาลอยู่ตลอดเวลา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2017 เมื่อ 19:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา