ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 12-05-2009, 21:38
ณญาดา's Avatar
ณญาดา ณญาดา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 27
ได้ให้อนุโมทนา: 12,017
ได้รับอนุโมทนา 34,841 ครั้ง ใน 741 โพสต์
ณญาดา is on a distinguished road
Default

เมื่อเริ่มรัชกาล พระองค์ก็โปรดให้ย้ายพระราชวังและสร้างเมืองหลวงใหม่ที่อมรปุระ (Amarapura) ทางเหนือประมาณกว่า ๑๐ กิโลเมตรเหนือกรุงอังวะเดิม ตามคำแนะนำของโหรหลวงที่ถูกกวาดต้อนมาจากเมืองมณีปุระ และทรงสั่งให้ทุบทำลายบ้านเรือน เปลี่ยนเส้นทางเดินของแม่น้ำให้ไหลเข้ามาท่วมเมืองอังวะเดิม และให้นำไม้สักของพระราชวังกรุงอังวะจำนวน ๑,๒๐๘ ต้น มาสร้างเป็นสะพานอูเป็ง (U Bein Bridge) จนปัจจุบันกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เป็นสะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก ทอดข้ามทะเลสาบตองตะมานมุ่งตรงไปสู่เจดีย์เจ๊าดอจี ที่ตั้งอยู่อีกฟากหนึ่งของทะเลสาบ ที่มีชื่อสะพานว่า อูเป็ง นั้น มาจากชื่อของขุนนางผู้เป็นแม่กองคุมการก่อสร้างสะพาน

พระเจ้าปดุง ได้เริ่มทำสงครามประกาศพระราชอำนาจใหม่ โดยการเอาชนะอาณาจักรยะไข่หรืออารากัน (Arakan) ซึ่งเป็นดินแดนทางตะวันตกของพม่า ที่พม่าไม่เคยครอบครองได้มาก่อนได้สำเร็จ ได้อัญเชิญพระมหามัยมุนีหรือพระเมี้ยตมุนี อันเป็นพระพุทธรูปประจำชาติของพม่าในปัจจุบันจากยะไข่มาประดิษฐานไว้ที่นครมัณฑะเลย์ รวมทั้งนำรูปสำริดศิลปะเขมรที่อยุธยาปล้นมาจากเมืองพระนครหลวงของเขมร แล้วพระเจ้าบุเรงนองนำไปจากกรุงศรีอยุธยา ยะไข่ปล้นชิงไปจากหงสาวดีหลังสมัยพระเจ้านันทบุเรงอีกที และหลังจากได้ไปท่องเที่ยวมาหลายอาณาจักร ในที่สุดรูปสำริดเขมรก็กลับมาอยู่ที่ลุ่มน้ำอิระวดีอีกครั้ง ((สงสัยว่ารูปสำริดมี"อิทธิฤทธิ์" อะไรดีนักหนาจึงไม่ถูกหลอมทิ้ง ขนไปขนมากันอยู่ได้)

เมื่อเอาชนะอาณาจักรที่ไม่เคยพ่ายอย่างอารากัน เป็นพลังครั้งสำคัญที่พาให้พระองค์เกิดความฮึกเหิมได้ใจ ไร้สามัญสำนึกที่จะประมาณศักยภาพของไพร่พลกำลังรบที่แท้จริง พระองค์ถึงกับทรงประกาศว่า "เราจะทำสงครามเพื่อพิชิตโมกุล (อินเดีย) จีน และโยดะยาให้ได้ "

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เด็กเมื่อวานซืน : 14-05-2009 เมื่อ 08:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 101 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ณญาดา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา