ถาม : การที่จิตรวมเป็นสมาธิ จะรู้ได้อย่างไรคะ ?
ตอบ : ความเป็นสมาธิ ดูง่าย ๆ ว่า ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ฯลฯ แล้วเราไม่สนใจ นั่นแสดงว่าจิตเริ่มรวมแล้ว แล้วถ้าถึงขนาดตัดจากอารมณ์ภายนอก อยู่แต่ข้างในไม่รับรู้ข้างนอกเลย นั่นรวมแน่ ๆ
ถาม : แล้วถ้าเราไม่ได้ยินข้างนอก อยู่แต่ข้างใน ?
ตอบ : อันนั้นเริ่มรวมมากแล้ว ก็คือพอเริ่มทรงตัว ได้ยินแต่จะไม่สนใจ เห็นก็ไม่สนใจ อยู่แต่ข้างใน แล้วจะแน่นมากขึ้น ๆ บางทีตึงเป๋ง เหมือนอย่างกับกลายเป็นหิน
ถาม : ถ้าแน่นมาก ๆ ?
ตอบ : ไม่เป็นไรจ้ะ ไม่ตายหรอก เป็นแค่อาการเท่านั้น เรารับรู้ไว้เฉย ๆ ว่าตอนนี้เป็นอย่างนั้น ไม่ต้องไปสนใจ ถ้ามีลมหายใจอยู่ก็ดูลมไป ถ้ามีคำภาวนาอยู่ก็ภาวนาไป ถ้าไม่มีก็ดูว่าตอนนี้กำลังเป็นอย่างนี้ ให้รับรู้ไว้เฉย ๆ อยากเป็นอย่างไรก็ช่าง
ถาม : เลิกจากสมาธิออกมาแล้วสบายใจ ?
ตอบ : จ้ะ..เวลาเลิกออกมารู้สึกโล่ง เบาสบายอย่าบอกใครเลย ตอนไม่เลิกนี่ตัวแข็งโป๊ก เริ่มมาถูกทางแล้วจ้ะ ต่อไปทำแล้วอย่าคิดไปอยากได้อย่างนั้นอีก เรามีหน้าที่ทำ จะเป็นหรือไม่เป็นก็ช่าง ถ้าเราไปอยากได้ ใจจะไม่นิ่ง เข้าไม่ถึง ภาวนาไปเรื่อย ๆ เหมือนเดิม ถ้าเป็นก็ตามดูไปเรื่อย ๆ อย่ากลัวก็ใช้ได้ เรากำลังทำความดีอยู่ ตายตอนนั้นอย่างแย่ ๆ ถ้าจิตทรงตัวก็ไปเป็นพรหม
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2013 เมื่อ 13:55
|