ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 18-09-2016, 14:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,405,129 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การที่เราจะคิดจะพิจารณานั้น ก็ให้คิดในแง่ของอริยสัจ คือมองให้เห็นทุกข์ และพยายามหาว่าสาเหตุของทุกข์นั้นมาจากไหน พอเราไม่สร้างสาเหตุนั้นทุกข์ก็เกิดไม่ได้ หรือจะมองในแง่ของสามัญลักษณะ คือเห็นว่าสภาพของทุกอย่างไม่เที่ยง เกิดขึ้นในเบื้องต้น แปรปรวนไปในท่ามกลาง สลายไปในที่สุด สภาพของทุกอย่างเป็นทุกข์ ไม่ว่าจะต้องทุกข์โดยสภาพก็ดี หรือทุกข์อยู่เนืองนิจก็ดี ทุกข์ที่เป็นไปตามสภาวะของสิ่งที่มากระทบใจก็ดี ไม่ว่าจะคน จะสัตว์ วัตถุธาตุสิ่งของต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่อยู่ในความทุกข์เช่นเดียวกัน

แม้กระทั่งภูเขาเลากาก้อนหินต้นไม้ต่าง ๆ ก็เป็นทุกข์ ก็คือทุกข์โดยสภาพที่ก้าวไปหาความเสื่อมอยู่ตลอดเวลา และท้ายที่สุดให้มองเห็นว่าสภาพร่างกายของเราก็ดี ของคนอื่นก็ดี สัตว์อื่นก็ดี ไม่มีอะไรให้ยึดถือมั่นหมายเป็นตัวตนเราเขาได้ เพราะประกอบขึ้นมาด้วยธาตุ ๔ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม ทั้งนั้น ให้เราได้อาศัยอยู่ชั่วคราวตามบุญตามกรรมที่สร้างมา เมื่อถึงเวลาหมดอายุขัยตายไป ก็เปลี่ยนรูปเปลี่ยนขันธ์ไปตามบุญตามบาปของตน แต่จะเกิดมากี่ชาติก็พบกับความทุกข์ทั้งสิ้น เราจึงควรตั้งเป้าหมายสูงสุดไว้ที่พระนิพพาน

ถ้าใครสามารถยกจิตขึ้นเกาะพระนิพพานได้ ก็ยกจิตขึ้นเกาะพระนิพพาน ถ้าหากว่าทำไม่ได้ ให้นึกถึงพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งที่เรารักเราชอบมากที่สุด ว่านั่นคือรูปแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน เรานึกถึงพระองค์ท่านคือเราอยู่ใกล้กับพระองค์ท่าน เราอยู่ใกล้กับพระองค์ท่าน คือเราอยู่บนพระนิพพาน

เมื่อเอาใจจดจ่อไว้ดังนี้แล้ว ก็ย้อนกลับมาดูลมหายใจเข้าออกของเรา ถ้ายังมีลมหายใจอยู่ก็กำหนดดูลม ถ้ายังมีคำภาวนา ก็ให้กำหนดรู้คำภาวนาไปด้วย ถ้าลมหายใจเบาลง ให้กำหนดรู้ว่าลมหายใจเบาลง ถ้าคำภาวนาหายไป ให้กำหนดรู้ว่าคำภาวนาหายไป อย่าดิ้นรนออกจากสภาพนั้น และอย่าพยายามเข้าไปสู่สภาพนั้น เรามีหน้าที่แค่ภาวนาอย่างเดียว สภาพที่เกิดขึ้น จะเกิดหรือไม่เกิด จะเป็นหรือไม่เป็นก็ช่าง ไม่ต้องเอามาใส่ใจ

ลำดับต่อไปให้ทุกท่านภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๙

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2016 เมื่อ 15:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา