ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 16-09-2016, 21:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การทรงสมาธิทรงฌานได้นั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า บุคคลที่ทรงฌานได้เป็นบุคคลที่มารมองไม่เห็น เนื่องเพราะว่าอำนาจของฌานจะไปกดกิเลสใหญ่ทั้งหมดให้ดับสนิทลงชั่วคราว เมื่อไม่มีกิเลสต่าง ๆ ที่เป็นบริวารของมารส่งรายงานไปถึง มารก็ไม่สามารถที่จะหาเราพบได้ ดังนั้น...ในเรื่องของการทรงสมาธิให้ได้ฌาน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง

ลำดับต่อไปเมื่อลมหายใจของเราเริ่มทรงตัว สมาธิเริ่มมั่นคงแล้ว ก็ให้ทุกคนกำหนดแผ่เมตตาออกไปสู่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกภพ ทุกภูมิ ทุกหมู่ ทุกเหล่า ว่าเราไม่เป็นศัตรูกับใคร เรายินดีเป็นมิตรกับคนและสัตว์ทั้งหลายทั่วโลก ขอให้เขาทั้งหลายนั้นล่วงพ้นจากกองทุกข์ ขอให้เขาทั้งหลายอยู่ดีมีสุข

การแผ่เมตตาทำให้จิตของเราสงบเยือกเย็น ควรแก่การปฏิบัติธรรม สมาธิก็ทรงตัวได้ง่าย เมื่อสมาธิของเราทรงตัวแล้ว แผ่เมตตาจนเต็มที่แล้ว พอกำลังใจไปต่อไม่ได้ก็จะเริ่มคลายออกมา เราก็ต้องระมัดระวังหาวิปัสสนาญาณมาให้สภาพจิตได้ครุ่นคิด เพราะถ้าหากว่าเราไม่หางานให้ทำ สภาพจิตก็จะไปเสวยอารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง ของตนเอง และด้วยความที่ได้กำลังจากสมาธิไป ก็จะฟุ้งซ่านได้อย่างเป็นหลักเป็นฐาน เป็นงานเป็นการ ทำให้เราไม่สามารถที่จะระงับยับยั้งได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-09-2016 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา