"เมื่อเดินสวนกับพระวัดทองผาภูมิ ซึ่งมักจะนำโดยหลวงตาสุ่ย หรือว่าเดินสวนกับท่านเอ (พระมอญ) ท่านก็จะยกมือไหว้ ทำเอาอาตมารับไหว้แทบไม่ทัน ทั้งที่มีระบุชัดเจนในอภิสมาจาร (ศีลพระที่มานอกปาฏิโมกข์) ว่าเวลาใดไม่ควรที่จะไหว้กัน แต่ด้วยความเกรงใจที่ท่านพรรษาน้อยกว่า และอาตมาก็เป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงของอำเภอ ท่านจึงไหว้ทุกครั้ง และอาตมาก็ต้องรับทุกครั้งเหมือนกัน
เวลาพ่อออกซาน ซึ่งอายุเก้าสิบปีเศษใส่บาตร หรือว่ามีญาติโยมที่นำเด็กตัวเล็ก ๆ มาใส่บาตร อาตมาจะน้อมตัวลงต่ำเพื่อความสะดวกของคนแก่หรือเด็ก แต่สังเกตว่าพระบางรูปท่านไม่ยอมน้อมตัวลง ถ้าเป็นภาษาเฉพาะตัวของอาตมาก็เรียกว่า "ยืนแข็งเป็นสากกะเบือ" เนื่องจากท่านยังไม่มีประสบการณ์
คนแก่มีเรี่ยวแรงน้อย ยิ่งอำนวยความสะดวกให้มากเท่าไร เราก็จะไปได้เร็วขึ้นเท่านั้น บางท่านถ้ายกทัพพีห่างตัวก็มือไม้สั่น เพราะว่ากำลังไม่พอ บางทีถึงกับข้าวหกตกพื้นไปเลย
ส่วนเด็กนั้นเมื่อใส่บาตรไม่ถึงก็ต้องเขย่ง เด็กก็มีกำลังน้อยเช่นกัน เมื่อเขย่งหลาย ๆ รอบเข้าก็หมดแรง เคยมีอยู่ที่เด็กดึงทัพพีกลับไม่ทัน เมื่อหมดแรงเขย่งทิ้งส้นเท้าลง มือยังจับทัพพีคาบาตรอยู่ ก็งัดบาตรกระเด็นหลุดจากมือพระไปเลย..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2020 เมื่อ 13:16
|