พระอาจารย์กล่าวว่า "จนป่านนี้ยังไม่มีข่าวว่าจะประกอบพิธีบรมราชาภิเษกถวายพระองค์ท่านกันตอนไหน เนื่องจากว่าเป็นระยะเวลาเกือบ ๗๐ ปีแล้ว ประมาณ ๑ ชั่วคน บรรดาผู้รู้ต่าง ๆ ในชุดก่อน ๆ ก็ล่วงลับดับขันธ์กันไป คนรุ่นใหม่ ๆ ที่สืบทอดความรู้ ก็ต้องเปิดตำราว่ากันให้ถูกต้องที่สุด ห้ามมีข้อผิดพลาดอย่างเด็ดขาด
ในส่วนหนึ่งก็คือการถวายน้ำมูรธาภิเษก ธรรมเนียมนี้เป็นธรรมเนียมมาจากอินเดียว่า กษัตริย์ที่ขึ้นครองราชย์ถ้าไม่ได้รับการถวายน้ำมูรธาภิเษก ไม่ถือว่าเป็นการครองราชย์โดยสมบูรณ์ บ้านเราจะมีการนำน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแหล่งต่าง ๆ ถวายเข้าไปในวัง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็คือไปประกอบพิธีกันในวังเลย
แต่มาระยะหลัง ๆ ก็คือ แต่ละแหล่งก็จะนิมนต์หลวงปู่หลวงพ่อที่เป็นที่เชื่อถือว่า เป็นผู้มีศีลาจารวัตรงดงาม ประกอบไปด้วยฌานสมาบัติ มาปลุกเสกแล้วค่อยส่งถวายเข้าไปในวัง อาตมาเองช่วงที่ผ่านมาก็ได้ร่วมพิธีด้วย ๒ ครั้ง คือตอน ๖๐ พรรษาของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ช่วงที่ยังอยู่วัดท่าซุง ซึ่งตอนนั้นก็เป็นแค่ส่วนประกอบในพิธีเท่านั้น อีกครั้งหนึ่งที่ผ่านมาจำไม่ได้ว่าเป็นงาน ๗๒ พรรษาหรือ ๘๐ พรรษา น่าจะ ๘๐ พรรษา ไปในฐานะผู้อยู่ในพิธีกรรมเพราะว่าได้รับนิมนต์ให้ไปเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์โดยตรง ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าครั้งต่อไปจะได้ร่วมพิธีเมื่อไร"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-05-2018 เมื่อ 02:06
|