ส่วนที่พัดไปมาในร่างกายของเราเรียกว่า ธาตุลม ได้แก่ ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ลมที่ค้างอยู่ในท้องในไส้ ที่เรียกว่าแก๊ส ลมในช่องว่างของร่างกาย เช่น ช่องหู ช่องจมูก ลมที่พัดขึ้นเบื้องสูง พัดลงเบื้องต่ำ พัดไปทั่วร่างกาย เรียกว่าความดันโลหิต แยกเอาไว้อีกส่วนหนึ่ง
ส่วนสุดท้ายเป็นส่วนที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย เรียกว่า ธาตุไฟ มีไฟธาตุที่กระตุ้นร่างกายให้เจริญเติบโต ไฟธาตุที่เผาผลาญร่างกายให้ทรุดโทรมลง ไฟธาตุที่ช่วยในการย่อยอาหาร ไฟธาตุที่ยังร่างกายให้กระวนกระวายยามเจ็บไข้ได้ป่วย ลองแยกเอาไว้อีกส่วนหนึ่ง
ส่วนที่หนึ่งคือดิน ส่วนที่สองคือน้ำ ส่วนที่สามคือลม ส่วนที่สี่คือไฟ เมื่อแยกออกมาแล้วไม่มีอะไรหลงเหลือเป็นเราเป็นของเราเลย เมื่อถึงเวลา จิตคือตัวเรามาอาศัยอยู่ ตามบุญตามบาปที่สร้างเอาไว้ เราก็ไปยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นเราเป็นของเรา ความจริงแล้วร่างกายนี้คือธาตุสี่ที่เป็นสมบัติของโลกเท่านั้น
ถ้าหากว่าธาตุสี่แปรปรวนไปก็เจ็บไข้ได้ป่วย ถ้าขาดหายไปก็ถึงแก่ความตาย ถ้าธาตุลมขาดไปธาตุไฟก็ดับ สภาพร่างกายของเราก็จะแข็งทื่อ ไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้ ในเมื่อไม่มีธาตุไฟคอยควบคุม ธาตุน้ำก็ล้นเกิน ดันร่างกายอืดพองขึ้นมา พอผ่านไปสองวันสามวันธาตุน้ำกำเริบมาก ๆ ก็ดันจนธาตุดินคือผิวกายแตกปริ น้ำเหลืองน้ำหนองไหลโทรม ส่งกลิ่นเหม็นตลบไปไกล ๆ หมู่สัตว์ทั้งหลายก็มากัด มาทึ้ง มาดึง มาลาก ร่างกายนี้ไปกินเป็นอาหาร หมู่หนอนทั้งหลายก็มาชอนไชอัตภาพร่างกายนี้กินเป็นอาหาร
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-07-2017 เมื่อ 16:48
|