ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 04-06-2015, 12:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,632 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หลักอิทธิบาทนั้นก็คือ ฉันทะ ต้องยินดีและพอใจที่จะปฏิบัติจริง ๆ ความยินดีและพอใจในการปฏิบัติธรรมนั้นเกิดจาก ๒ สถานด้วยกัน สถานแรกก็คือ ทุกข์จนเข็ด แบบนางปฏาจาราเถรี ผัวก็ตาย ลูกคนโตก็ตาย ลูกคนเล็กก็ตาย ลูกเพิ่งคลอดก็ตาย พ่อแม่และพี่ชายก็ตาย สรุปว่าไม่เหลือใครเลย ปฏิบัติธรรมเป็นพระอรหันต์ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะเห็นทุกข์ชัดมาก อีกประการหนึ่ง ก็คือ เห็นคุณประโยชน์ในการปฏิบัติธรรม ว่าจะเกิดคุณต่อตัวเองอย่างไร ก็เลยยินดีและพากเพียรที่จะปฏิบัติไป

ข้อที่ ๒ วิริยะ คือความเพียรในการปฏิบัติ เคยกล่าวไปแล้วว่าพวกเรามักจะเหมือนกับไฟไหม้ฟาง พอถึงเวลาอาตมาเอาไฟจ่อเข้าไปหน่อยหนึ่งก็ไหม้พรึ่บขึ้นมา พอไม่มีคนใส่เชื้อไว้ให้ก็ดับไปในเวลาอันรวดเร็ว ทำอย่างไรที่ความเพียรของเราจะสม่ำเสมอ ก็คือต้องทำให้ได้ผล ถามว่าได้ผลถึงขนาดไหน ? เอาแค่ปีติก็พอ ไม่ต้องถึงฌานหรอก ใครที่ปฏิบัติถึงระดับปีติขึ้นไป จะเริ่มรู้แล้วว่าการปฏิบัติธรรมมีผลจริง ก็จะไม่เบื่อไม่หน่าย ตั้งหน้าตั้งตาทำไป

จิตตะ ความปักมั่น จดจ่ออยู่กับเป้าหมาย จำเป็นต้องเห็นคุณเห็นโทษอย่างชัดเจน เห็นโทษ..กลัวที่จะเป็นอย่างนั้นอีก เห็นคุณ..ต้องการเป็นอย่างนั้นบ้าง ต่างกันนิดเดียว ถ้าหากว่า “อยากจะเป็นแบบนั้น” ก็คือเห็นเขาทำแล้วได้ดี หรือว่า “กลัวจะเป็นอย่างนั้น” ก็คือกลัวจะต้องเกิดทุกข์เกิดโทษแบบนั้นขึ้นมาอีก กำลังใจก็จะปักมั่นอยู่กับเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลงไปไหน

คราวนี้ตัวสุดท้ายที่สำคัญมาก ๆ เลยแต่มักจะโดนลืม คือ วิมังสา เป็นการพิจารณาไตร่ตรองอยู่เสมอ ๆ ว่าเราทำอะไร ? เพื่ออะไร ? ปัจจุบันนี้ทำไปถึงไหน ? เหลือระยะเวลาใกล้ไกลเท่าไร ? ยังตรงต่อเป้าหมายหรือไม่ ? ต้องทบทวนอยู่เสมอ แต่พวกเรามักจะลืม ในเมื่อพวกเรามักจะลืม การปฏิบัติของเราก็ไม่แน่ว่าจะตรงทาง หรือไม่แน่ว่าทำแล้วจะเห็นผล

หลายท่านก็เลยกลายเป็นคนขยัน เช้าบ้างเย็นบ้าง ทำทุกวัน แต่ลืมไปว่าอย่างดีเราก็นั่งได้ประมาณ ๑ ชั่วโมง แล้วกำลังใจมีคุณภาพถึงครึ่งชั่วโมงหรือเปล่าก็ไม่รู้ อีก ๒๓ ชั่วโมงเราก็ไหลตามกิเลสไปตลอด แล้วจะให้เกิดความก้าวหน้าในการปฏิบัติได้อย่างไร เพราะว่าสิ่งที่เราทำเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มกับสิ่งที่เราเสียไป ก็คือกำลังใจเสียวันละ ๒๓ ชั่วโมง แต่กำลังใจดีมีวันละชั่วโมงเดียว ชดเชยกันไม่ได้ ทดแทนกันไม่ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-06-2015 เมื่อ 14:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 99 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา