จากนั้นตำราการสร้างพระกริ่งสืบทอดมาที่สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) วัดสุทัศน์เทพวราราม สืบสานมาเป็นพระกริ่งสายวัดสุทัศน์ที่โด่งดังมาก เมื่อสิ้นสมเด็จพระสังฆราชแพแล้ว ท่านเจ้าคุณศรี (สนธ์ ยติธโร) ก็รับช่วงในการสร้างพระกริ่งต่อมา
ถัดจากสมัยเจ้าคุณศรีแล้ว สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) ก็ยังคงสร้างพระกริ่งหลังปิ ที่มีอักขระขอมเขียนว่า "ปิ" อยู่ข้างหลัง ซึ่งมาจากอักขระในพุทธคุณ ๕ ก็คืออิติปิ โสฯ นั่นแหละ แต่ท่านคัดคำว่า "ปิ" มาคำเดียว ซึ่งสามารถขยายความได้ว่า ปิโย เทวะมะนุสสานัง แปลว่า เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดา ปิโย พรัหมานะมุตตะโม เป็นที่รักของพรหมทั้งหลาย ปิโย นาคะสุปัณณานัง เป็นที่รักของนาคและครุฑ ปิณินทริยัง นะมามิหัง เราขอแสดงความนอบน้อมต่อพระผู้เป็นที่รักยิ่งนี้ ก็คือพระพุทธเจ้านั่นเอง
ถัดจากสมัยหลวงปู่เสงี่ยมคือสมเด็จพระพุฒาจารย์แล้ว ชื่อเสียงของพระกริ่งสายวัดสุทัศน์ก็ตกต่ำลง ไปดังตามสำนักอื่นแทน อย่างปัจจุบันนี้ก็นิยมพระกริ่งชินบัญชร ของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จังหวัดระยอง เป็นต้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2013 เมื่อ 17:40
|