ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 10-05-2012, 08:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,912 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จะเป็นพระหรือไม่เป็นพระ..อยู่ที่ศีล ไม่ใช่ว่าไปถึงระดับศีลรักษาตนได้แล้วไปประมาท อย่างไรก็ต้องระมัดระวังกันสุดชีวิต

แม้กระทั่งพระอรหันต์อย่างท่านมหากัปปินนะ ถึงเวลาลงฟังพระปาติโมกข์ ท่านคิดว่าเราเป็นพระอรหันต์แล้ว ไม่ต้องไปฟังพระปาติโมกข์ก็ได้ พระพุทธเจ้าทรงทราบความคิด จึงเปล่งฉัพพรรณรังสีเสมือนพระองค์ท่านปรากฏเฉพาะหน้า ตรัสว่า “ดูก่อน..กัปปินนะ หากพระทุกรูปคิดอย่างเธอ ศาสนานี้จะตั้งอยู่ไม่ได้”

เราจะเห็นว่า แม้พระอรหันต์ที่เป็นปาปมุติ คือบุคคลที่เป็นพ้นจากบาปโดยสิ้นเชิงแล้ว ในส่วนที่เป็นจริยาเล็กน้อย ๆ พระพุทธเจ้าท่านยกให้ไม่ถือสาแล้ว ถือว่าเป็นสติวินัย คือผู้ที่ทรงสติอย่างสมบูรณ์แล้ว ทำอะไรก็มีแต่กิริยา มายาไม่มี เมื่อมีแต่กิริยา กรรมก็ไม่ปรากฏแล้ว แต่ท่านก็ไม่ละเมิดศีลใหญ่ เพราะการละเมิลศีลใหญ่ อาจจะเป็นตัวอย่างให้คนอื่นเลียนแบบและทำตาม

ดังนั้น..จะเห็นว่าบุคคลที่เป็นพระหรือไม่เป็นพระ ต้องดูเรื่องศีลให้เป็นปกติ ขยับตัวเมื่อไรต้องรู้ว่าศีลจะขาดหรือไม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2013 เมื่อ 17:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 230 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา