ในส่วนที่เราเรียน ถ้าหากว่าเป็นภัณฑาคาริกปริยัติ ก็คือเรียนแบบคลังเก็บพัสดุ คลังสะสมความรู้ เรียนไปเถอะครับ หรือไม่ก็นิสสรณัตถปริยัติ เราเรียนเพื่อความหลุดพ้นจากกองทุกข์ อันนี้ว่าไปให้เต็มที่เลยครับท่าน ตรงกับวัตถุประสงค์ของพระพุทธเจ้า
แต่ถ้าเป็นอลคัททูปมปริยัติ เรียนแบบจับงูข้างหาง ก็คือใช้วิชาความรู้ไปในทางที่ผิด มีแต่จะโดนงูกัดตายครับ..! แทนที่พวกเราทั้งหลายได้ความรู้มา แล้วจะช่วยยังพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง กลายเป็นว่าเราเอาความรู้นั่นแหละที่จะมาทำลายพระพุทธศาสนาได้เนียนยิ่งขึ้นไปอีกครับ
อย่างที่ผมเคยใช้คำพูดกับพระในวัดของผมว่า "จะกลายเป็นเหี้ยติดปีก" ครับ อย่างเช่นว่าพอถึงเวลาแล้ว อาศัยความรู้ที่ตัวเองมี หลบซ้ายเลี่ยงขวาไปเรื่อย อ้างข้อกฎหมายบ้าง อ้างพระธรรมวินัยบ้าง ในเรื่องที่คนอื่นเขายังไม่รู้ แล้วบิณฑบาตเกินเวลา เคยสังเกตไหมครับ ? หรือไม่ก็ออกไปเรี่ยไรกัน
ผมเห็นชัด ๆ เลยครับ พอตำรวจจับ ก็แกล้งลงไปนอนชักอยู่กับพื้น ตำรวจก็ไม่รู้จะทำอะไร เพราะว่าจะกลายเป็นรังแกพระ ก็ต้องปล่อยให้ไอ้พวกหน้าด้านทำต่อไป กลายเป็นว่าเรารู้มากเท่าไร ก็อาจจะสร้างโทษให้กับตัวเอง แล้วก็ทำลายพระพุทธศาสนาได้มากเท่านั้น
ดังนั้น..เรื่องที่ท่านทั้งหลายเรียนอยู่ เราต้องสังเกต อย่างเช่นในปัจจุบันของเรา สถานการณ์ไวรัสโควิด ๑๙ แพร่ระบาด จนกระทั่งพวกเราต้องมาเรียนออนไลน์กันอยู่นี่ แล้วสังเกตไหมครับว่ารัฐบาลของเรา คนรักมากเหลือเกิน พูดถึงกันอยู่ทุกวัน แต่พูดไปในทางไม่ดี
โดยเฉพาะคนไทยเราเอาใจโคตรยากเลยครับ ไม่มีวัคซีนฉีด ก็ด่ารัฐบาล มีวัคซีนไม่ถูกใจ ก็ด่ารัฐบาล ผมเองไม่ได้เชียร์รัฐบาลนะครับ ผมก็ด่าด้วย แต่เราต้องดูครับ อย่างเช่นว่าท่านทั้งหลายมีซิโนแวคฉีด ก็ฉีดไปเถอะครับ ไม่ใช่ว่ากูจะรอไฟเซอร์ รอโมเดอร์น่า ทำไมรัฐบาลไม่ซื้อมาสักที ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2021 เมื่อ 10:55
|