ชื่อกระทู้: ธรรมะไม่ใช่ของยาก
ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 20-12-2016, 02:46
นักเดินทางสังสารวัฏ นักเดินทางสังสารวัฏ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2016
ข้อความ: 77
ได้ให้อนุโมทนา: 139
ได้รับอนุโมทนา 2,965 ครั้ง ใน 205 โพสต์
นักเดินทางสังสารวัฏ is on a distinguished road
Talking ธรรมะไม่ใช่ของยาก

กราบนมัสการหลวงพ่อครับ

๑. วันนี้ผมฟังเทปธรรมจากหลวงพ่อวัดท่าซุง เรื่องเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน ผมฟังแล้วคิดตามที่หลวงพ่อสอนก็เห็นไปตามความจริงที่หลวงพ่อพูดทั้งหมด เช่นบางครั้งจิตและร่างกายก็มีสุข มีทุกข์แล้วก็ไม่สุขไม่ทุกข์ สลับไปสลับมาเป็นธรรมดา พอคิดแบบนี้ผมรู้สึกว่าอารมณ์มันเบาทันที เหมือนปล่อยวางได้ระดับหนึ่ง แล้วผมก็หัวเราะออกมามีความสุข เหมือนแบบว่าที่แท้ธรรมะก็เป็นแบบนี้ไม่ยากอย่างที่คิด แล้วหลังจากนั้นผมก็พิจารณาคำสั่งสอนของหลวงพ่อและคำสั่งสอนของพระท่านอื่น ๆ แล้วสรุปได้ว่า ถ้าเราไม่รับกิเลสเข้ามาในจิตด้วยการมีสติหรือรู้สึกตัวตลอดเวลา กิเลสก็ทำไรเราไม่ได้ เพราะเราตัดเหตุที่จะเกิดความทุกข์ทิ้ง แปลว่าผลความทุกข์ก็จะไม่เกิดแน่นอน แต่ทว่าผมรู้สึกตลอดว่ากิเลสมันวนรอบ ๆ จิตผมอยู่ แต่ผมไม่ได้ให้ความสนใจมันไม่รับมันเข้ามาในจิต หรือพูดเป็นภาษาง่าย ๆ ว่าช่างมัน แล้วนอกเหนือจากนั้นปัจจุบันผมรู้สึกว่าจิตผมเร็วมาก แบบเห็นเหตุเห็นผลชัดเจนขึ้น และพยายามมองทุกอย่างให้เป็นเป็นธรรมดาได้ง่ายขึ้น

จากสิ่งที่ผมเล่ามา นี่คืออารมณ์ของสังขารุเปกขาญาณหรือเปล่าครับ ถ้าใช่ในฐานะที่ผมเป็นปุถุชนอยากถามว่า จะทำอย่างไงไม่ให้ธรรมตัวนี้เสื่อมไปจากจิตผมครับ แล้วอาการที่ผมรู้สึกกิเลสมันวน ๆ รอบจิตผม ผมกังวลไปเองหรือเปล่าครับ ถ้าหลวงพ่อมีอะไรจะแนะนำเพิ่มเติมช่วยเมตตาทีครับ

๑.๑ จากข้อแรกที่ผมเล่ามาทำให้ผมมั่นใจว่าธรรมของพระพุทธเจ้าไม่ยาก ทุกคนสามารถทำได้ถ้าตั้งใจจริง บวกกับก่อนหน้านี้เคยทำสมาธิแล้วได้ฌานสมาบัติ แต่ก็เสื่อมไป แต่ว่ารสชาติของฌานสมาบัติยังอยู่ในใจผมไม่หายไปไหนเลย ปัจจุบันก็พยายามกำหนดรู้ลมหายใจ เพื่อจะทรงฌานสมาบัติเพื่อความสุขของผม แต่ทว่าตัวผมอายุยังแค่ ๒๐ ก็ยังอยากดูหนัง อยากมีแฟน เล่นเกม เหมือนปุถุชนปกติ แล้วเวลาผมเล่นเกม ผมก็เอาความรู้ทางพระพุทธศาสนามาปรับใช้ในการเล่นเกม เช่น เวลาเล่นเกมผมก็เอาสติ สมาธิ ปัญญา ควบคุมให้จิตผมโฟกัสกับการเล่นเกมและเอาตัวปัญญา หาวิธีที่จะชนะคู่ต่อสู้ เลยอยากถามหลวงพ่อครับว่า การที่ผมเอากำลัง สติ สมาธิ ปัญญา และความรู้ของพระศาสนามาพลิกแพลงใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเช่นเล่นเกมตามที่กล่าวมา เป็นลักษณะฌานใช้งาน หรือเปล่าครับ

๒.การที่จะเก่งในการเข้าออกฌานต่าง ๆ ได้ ต้องจำอารมณ์ฌานระดับต่าง ๆ ให้แม่น แล้วก็นึกจะเข้าฌานนี้ฌานนั้น ใช่หรือเปล่าครับ ถ้าไม่ใช่หลวงพ่อช่วยอธิบายทีครับ

๓. ผมมีความสนใจเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์ เลยสงสัยว่าพระโพธิสัตว์บางชาติท่านทำบุญกับพระพุทธศาสนาอย่างมาก มีความดีมาก แต่บางชาติท่านดันไม่เคารพพระพุทธเจ้า ยกตัวอย่างเช่นโตไทยพราหมณ์เกิดในยุคพุทธกาล แต่ดันไปลบหลู่พระพุทธเจ้า พอท่านตายแล้วไปเป็นสุนัข จากสุนัขก็ดิ่งลงอเวจีเลย ผมเลยคิดว่าท่านต้องโดนอกุศลธรรมอะไรบางอย่างครอบงำจิต ผมเลยอยากทราบว่าพอจะมีวิธีหรือธรรมอะไรไหมครับ ที่จะทำให้พระโพธิสัตว์ท่าน เกิดสลับไปสลับมาระหว่าง สวรรค์ พรหม และมนุษย์

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-01-2017 เมื่อ 02:47
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นักเดินทางสังสารวัฏ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา