ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 04-02-2017, 13:49
มะลิแก้ว's Avatar
มะลิแก้ว มะลิแก้ว is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 619
ได้ให้อนุโมทนา: 3,388
ได้รับอนุโมทนา 250,920 ครั้ง ใน 2,870 โพสต์
มะลิแก้ว is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาสร้างขุนแผนเกราะเพชร ต้องบอกว่ารวมทั้งสายลุยและเมตตาเข้าด้วยกัน ...(หัวเราะ)... พระขุนแผนบ้านกร่างหรือขุนแผนกรุวัดใหญ่ชัยมงคล โดยเฉพาะขุนแผนบ้านกร่าง เป็นพระที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชให้สร้างเพื่อให้ทหารในกองทัพติดตัวไปรบกับพม่า ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมคนที่ขุดกรุเจอถึงให้ชื่อว่าพระขุนแผน อาจจะเป็นเพราะว่าบ้านกร่างอยู่ศรีประจันต์ก็ได้

แต่จะว่าไปนางศรีประจันต์ก็ไม่ใช่แม่ขุนแผน แม่ขุนแผนคือท่านย่าทองประศรี แต่เนื่องจากว่าพระชุดนั้นมีทั้งแบบคู่และแบบเดี่ยว เขาก็เลยมี “พลายคู่” “พลายเดี่ยว” ซึ่งบรรดาตระกูลพลายก็เริ่มตั้งแต่ขุนแผนที่ชื่อว่าพลายแก้ว ลงไปลูก ๆ ก็พลายงาม พลายบัว พลายยง พลายเพชร คาดว่าบรรดาเซียนพระเขาคงมีเหตุผลที่ดีที่ตั้งชื่อพระว่าขุนแผน

พอมากรุวัดใหญ่ชัยมงคล สร้างบรรจุพระเจดีย์ที่สร้างเพื่อฉลองชัยชนะที่มีต่อกองทัพพม่า มีเวลาทำมากกว่า ก็เลยกลายเป็นขุนแผนเคลือบกรุวัดใหญ่ชัยมงคล ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกรุบ้านกร่างหรือว่ากรุวัดใหญ่ชัยมงคลก็ราคาแพงสาหัสพอกันในปัจจุบัน"


"แล้วขุนแผนอีกสำนักหนึ่งที่ดังระเบิดเถิดเทิงด้วยความสามารถเฉพาะตนเลย ก็คือ ขุนแผนพรายกุมาร ของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ซึ่งท่านศึกษาวิชาการทำพระมาจากหลวงปู่ของท่านเอง หลวงปู่ของหลวงปู่นี่ถ้าเป็นรุ่นเราก็น่าจะเป็นปู่ทวด ก็คือหลวงปู่สังข์ วัดละหารไร่ หลวงปู่สังข์ขลังขนาดไหนไม่รู้ คนเขาร่ำลือกันว่าหลวงปู่สังข์บ้วนน้ำลายลงพื้นนี่พื้นแตกเลย..! ท่านขลังได้ขนาดนั้น ตำราก็ตกสืบมาถึงรุ่นหลวงปู่ทิม ก็ถือว่าได้รับการใช้งานและเกิดผลสูงสุด

ฉะนั้น...ขุนแผนพรายกุมารของหลวงปู่ทิมถึงได้ดังมาก ราคาปัจจุบันแพงจับไม่ติด ก็คือถ้าไม่ได้เลขหกหลักขึ้นไปอย่าหวังเลยว่าจะได้เห็น ก็เลยมีคนไปเล่นประคำผงพรายกุมาร ก็คือ ถ้าได้ประคำมาเส้นหนึ่งก็แกะแบ่งกันคนละเม็ด ซึ่งหลวงปู่ทิมท่านก็ยืนยันว่าของท่านเม็ดเดียวพอแล้ว แล้วก็ไปเล่นลูกอมผงพรายกุมาร ซึ่งลูกอมก็เหลือจากพิมพ์พระ พอถึงเวลาเหลือเศษก็เอามาปั้นกลม ๆ ก็คือเนื้อเดียวกับขุนแผนพรายกุมาร เพียงแต่ว่าขุนแผนมีหลายพิมพ์ที่ฝังตะกรุด พิมพ์ที่ฝังตะกรุดมากที่สุดคือ ๙ ดอก"

"คราวนี้ในส่วนของการสร้างพระขุนแผน ถ้าจะบอกว่าเกี่ยวข้องกับขุนแผนจริง ๆ ก็น่าจะเป็นของวัดท่าขนุนนี่แหละ เพราะว่าตำราอื่นเขาเรียกขุนแผนเพราะว่าเป็นพิมพ์ ๕ เหลี่ยม แต่ของวัดท่าขนุนต้องบอกว่า โดยสายเลือดอาตมาก็เป็นลูกหลานเมืองสุพรรณฯ ที่เป็นบ้านเกิดของท่านย่าทองประศรี โดยที่อยู่ปัจจุบันก็ไปอยู่กาญจนบุรีที่ขุนแผนท่านเป็นเจ้าเมือง สรุปแล้วถึงได้บอกว่าถ้าสร้างขึ้นมากลัวของเก่าอยู่แค่ ๒ สำนักเท่านั้น คือขุนแผนเข้ากรุที่เป็นวัดใหญ่ชัยมงคลหรือบ้านกร่าง และอีกสำนักหนึ่งคือหลวงปู่ทิม

อาตมาได้ไปอัญเชิญขุนแผนตัวจริงไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าวันพุทธาภิเษกขอให้มาช่วยด้วย ยังไม่รู้ว่าจะออกมาแบบไหน แต่งานนี้ก็เน้นส่วนผสม ผงชนวนต่าง ๆ โดยเฉพาะผงยานัตถุ์ของหลวงพ่อวัดท่าซุงที่อาตมาเก็บใส่ไว้เป็นแกลลอน แล้วเอาไปเข้าพิธีพร ๓๐ ประการที่วัดท่าซุงมาแล้ว อีกส่วนหนึ่งก็คือผงกระเบื้องหลังคาโบสถ์วัดบางนมโค ซึ่งสร้างตั้งแต่สมัยหลวงปู่ปาน เป็นที่พุทธาภิเษกวัตถุมงคลของหลวงปู่ปานด้วย ท่านเจ้าอาวาสเขารื้อ พอดีหลวงพี่ติงลี่ไปจำพรรษาอยู่ที่นั่น ไปช่วยเขาบูรณะสร้างโน่นซ่อมนี่ ก็เลยขอกระเบื้องมาทำเป็นผงชนวนไว้ ให้อาตมามาขวดใหญ่ ถ้าว่าใหญ่แค่ไหนก็ประมาณขวดโอวัลติน"

"มีคนถามว่าคนจองกันเยอะแยะขนาดนั้น ทำไมยังมีพระเหลือ ? อาตมาบอกว่าตั้งใจทำให้เหลือ เพราะว่าก่อน ๆ นี้สร้างวัตถุมงคลยอดก็คือ ๓,๐๐๐ องค์ ขุนแผนเกราะเพชรนี่พิมพ์เล็ก ๓๐,๐๐๐ องค์ แต่ดูท่าว่าจะเหลือน้อย เพราะว่าจองไปเกินครึ่ง อาตมาแนะนำก็คือจองพิมพ์เล็กไว้ ไม่ต้องไปสนใจกับตะกรุด เพราะถ้าท่านสงเคราะห์ก็เหมือน ๆ กันนั่นแหละ จองตะกรุดไปก็แพงเปล่า ๆ

ตะกรุดนั้นลงคาถาหัวใจขุนแผน คือ สุนะโมโล ไว้ มาจากตัวคาถาปลุกที่ว่า เอหิมะมะ สุนะโมโล นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ ก็คือการเรียกหัวใจขุนแผนพร้อมกับธาตุ ๔

การเสกวัตถุมงคลถ้าเรียกธาตุ ๔ อาการ ๓๒ ได้ก็จะขลังกว่าปกติ ส่วนใหญ่สมัยนี้เขาจะเรียกธาตุ ตั้งธาตุ หนุนธาตุกันไม่เป็น ยิ่งอาการ ๓๒ ยิ่งไม่ค่อยมีใครอยากจะเสกเพราะว่าคาถายาวมาก ความจริงคาถายาวทำให้สมาธิดี แต่คนก็มักจะไม่ชอบเพราะคาถายาว

แบบเดียวกับหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง สร้างตะกรุดมหาโสฬสต้องเสก ๓ ปี เหตุที่ต้องเสก ๓ ปีเพราะว่าต้องเสกด้วยโองการมหาทมื่น ๑๐,๐๐๐ จบ ถ้าถามว่าโองการมหาทมื่นเป็นคาถายาวขนาดไหน ? ก็ประมาณ ๑ หน้ากระดาษเอ ๔ ฉะนั้น...ถ้าใครมีตะกรุดมหาโสฬสของวัดสะพานสูง ตั้งแต่หลวงปู่วาสน์ขึ้นไปถึง
หลวงปู่ทองสุข หลวงปู่กลิ่น หลวงปู่เอี่ยม ก็เก็บเอาไว้ก็แล้วกัน ไม่ว่าจะรุ่นไหนก็ขลังทั้งนั้น

หลวงปู่วาสน์ก็เพิ่งจะมรณภาพไป อายุ ๑๐๐ ปีพอดี รุ่นต่อไปก็คงจะมีแต่ตะกรุด หาความขลังยาก เพราะว่าขี้เกียจเสก วัตถุมงคลเสก ๓ ปีนี่บังคับเลยว่าต้องขลัง อาตมายังเคยเอาไปออกในเว็บวัดท่าขนุนไปหนึ่งดอก"

อ้างอิงจากเก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙
สมาชิก 97 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มะลิแก้ว ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา