ส่วนใหญ่พวกเรามักจะยึดติดในตัวบุคคลเสียมาก ต้องระมัดระวังตรงจุดนี้ให้หนัก ๆ ไว้ อย่าลืมว่าแม้แต่พระพุทธเจ้าก็ยังปรินิพพาน พระสาวกของพระองค์ท่านก็มรณภาพ หรือไปนิพพานกันนับไม่ถ้วนแล้ว ปัจจุบันตัวตนบุคคลที่เรายึดถืออยู่ อย่าได้ยึดในลักษณะที่เกาะท่าน แต่ให้ยึดในลักษณะที่เอาท่านเป็นอนุสติ
ให้ยึดในความดีของพระสงฆ์ สุปฏิปันโน..ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีอย่างไร อุชุปฏิปันโน..ท่านปฏิบัติตรงตามที่พระพุทธเจ้าสอนอย่างไร ญายะปฏิปันโน..ปฏิบัติตามหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสสอนมาว่าอย่างไร สามีจิปฏิปันโน..ปฏิบัติแล้วโดยชอบอย่างไร
ท่านเป็นพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี เป็นพระอรหันต์ เราก็เกาะความดีตรงนั้น ไม่ใช่ไปเกาะองค์ท่าน ถ้าเกาะองค์ท่านแล้ว ท่านมรณภาพไปเราก็จะเคว้งไปเลย อาตมาเคยเห็นภาพตลกที่หัวเราะไม่ออก
ตอนนั้นปี ๒๕๓๐ มีการเผาศพจำลองของหลวงพ่อวัดท่าซุง พวกเราแห่โลงศพของท่าน ซึ่งตั้งอยู่ที่ตึกอำนวยการทางด้านฝั่งจุฬามณีนำไปไว้ที่ศาลาสี่ไร่ ในระหว่างที่เดินแห่จากจุฬามณีมาที่ศาลาสี่ไร่ มีคนนั่งเรียงแถวข้างทางเต็มไปหมด บางคนร้องไห้โฮว่า "ไม่ได้มาวัดเดือนเดียว หลวงพ่อตายตอนไหนก็ไม่รู้ ?!" ไม่ได้ดูเลยว่าหลวงพ่อนั่งรถเข็นตามโลงมา นั่นแหละ..คือการยึดตัวบุคคลจนเกินไป
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-02-2011 เมื่อ 19:22
|