ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 07-05-2010, 10:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ไม่ว่าชาติไหนก็ตาม เรามีพ่อหนึ่ง มีแม่หนึ่งเท่านั้น ไม่เกินจากนี้ไปได้ พ่อแม่เป็นแดนเกิด ถ้าไม่มีท่านเราไม่สามารถจะเกิดมาได้ ท่านต้องทุกข์ยากลำบากเลือดตาแทบกระเด็น กว่าจะเลี้ยงดูเราเติบโตขึ้นมาได้ แม้ในยามคลอด แม่ก็ต้องเสี่ยงชีวิต ไม่รู้ว่าจะคลอดลูกออกมาให้อยู่รอดปลอดภัยได้ หรือว่าตัวเองจะต้องสิ้นชีวิตลงไป ถ้ากำลังกายไม่ดีพอ

ดังนั้นว่าวิธีทดแทนที่ง่ายที่สุด ดีที่สุด ก็คือ การปฏิบัติในทาน ในศีล ในภาวนา ที่มีอานิสงส์สูงสุด ถ้าหากว่าในความเป็นพระเป็นเณร เราบวชปุ๊บ พ่อแม่จะได้กุศลในส่วนนี้ทันที

ในอรรถกถาท่านกล่าวไว้ว่า พ่อแม่ได้เสียกันในวันนั้น แล้วก็มีอันต้องแยกย้ายจากกันไป ปรากฏว่ามีลูกติดท้องไปด้วย พอคลอดลูกออกมาก็พลัดพรากจากกันไปอีก โดนคนอื่นเก็บเอาไปเลี้ยง

เป็นอันว่าเด็กนั้นตั้งแต่เกิดมาไม่เคยรู้เลยว่าพ่อแม่ที่แท้จริงเป็นใคร แต่ถ้าเขาได้บวชเมื่อไร อานิสงส์จะเป็นของพ่อกับแม่เขาทันที บุญพิเศษประเภทเดียว ที่พ่อแม่ไม่ต้องอนุโมทนาก็ได้รับ คือบุญของการบวชพระบวชเณร เรียกว่าบุญของเนกขัมบารมี

คราวนี้ถ้าหากว่าเราเป็นผู้หญิง เราไม่สามารถบวชพระบวชเณรได้ วิธีที่พ่อแม่จะได้บุญนั้นก็คือ สร้างความเป็นพระอริยะเจ้าให้เกิดขึ้นกับเราให้ได้ ทันทีที่เราก้าวถึงความเป็นพระโสดาบัน นั่นเราเป็นพระแล้ว ยิ่งกว่าพระเณรทั่ว ๆ ไปเสียอีก

อันนั้นอานิสงส์จะเต็มที่กับบุคคลที่เป็นพ่อเป็นแม่ของเรา นั่นหมายถึงว่า เวลาเราบวชมา อุทิศส่วนกุศลไปให้ญาติพี่น้องของเรา ที่ล่วงลับไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นญาติผู้ใหญ่ก็ตาม ผู้น้อยก็ตาม ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ท่านจะได้มีส่วนโมทนาในความดีของเราที่อุตส่าห์สร้างสมเอาไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2010 เมื่อ 17:42
สมาชิก 127 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา