ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 26-11-2014, 13:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,320 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ขณะเดียวกัน เมื่อกำลังใจทรงตัวแล้ว ก็ต้องรู้จักคลายออกมาพิจารณาตามหลักของไตรลักษณ์ หรืออริยสัจ ๔ หรือวิปัสสนาญาณ ๙ ตามที่ได้กล่าวไปเมื่อวานนี้ เพื่อที่สภาพจิตของเรา ซึ่งบ่มเพาะกำลังเอาไว้ จะได้ใช้กำลังไปในทางที่ถูก ถ้าเราไม่หางานให้จิตทำดังนี้ ถึงเวลาสภาพจิตก็จะฟุ้งซ่านไปสู่อารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง แล้วจะเป็นการฟุ้งซ่านที่น่ากลัวมาก เพราะว่านำเอากำลังในการภาวนาไปฟุ้งซ่าน ทำให้ฟุ้งซ่านอย่างเป็นหลักเป็นฐาน เป็นการเป็นงาน เราจะดึงกลับได้ยาก เนื่องจากโดนอกุศลกรรมชักนำ เอากำลังไปใช้งานเสียก่อน เป็นต้น

เมื่อพิจารณาไปเรื่อย ๆ สภาพจิตของเราจะเริ่มดิ่งลงสู่อารมณ์สงบ กลายเป็นสมาธิทรงตัวอีกครั้งหนึ่ง เราก็ภาวนาของเราต่อ ให้ทำสลับไปสลับมาดังนี้ ถึงจะมีความก้าวหน้าในการปฏิบัติอย่างที่พวกเราต้องการ

อันดับต่อไป..ขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันอาทิตย์ที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยรัตนาวุธ)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-11-2014 เมื่อ 13:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา