พระอาจารย์กล่าวว่า "วันนี้มีงานเผาศพคุณติ๊ก (ถาวภักดิ์ ตียาภรณ์) ที่วัดเกตุการาม จ.เชียงใหม่ ต้องบอกว่าคุณติ๊กเป็นบุคคลที่หนักแน่นมั่นคงในเรื่องการปฏิบัติธรรม และมีความเคารพในพระรัตนตรัย เนื่องจากว่าโหมงานหนัก ความเครียดรับประทานบ่อย ท้ายสุดก็เลยเป็นมะเร็ง เสียชีวิตตอนอายุ ๕๕ ปี อาตมาก็ไม่เคยถามอายุ คิดว่าเป็นพี่มาตลอด กลายเป็นน้องไปเสียนี่
คุณติ๊กรับเอาเทียนของทูลกระหม่อมอุบลรัตน์ไปถวายที่วัดท่าขนุน ๓ ปีติดกัน ปีนี้ปีที่ ๔ คงต้องให้คุณตั้มไปแทน เพราะว่าเจ้าตัวจะถูกเผาวันนี้แล้ว
ต้องบอกว่าเจ็บป่วยอยู่ ๔ – ๕ ปี แต่คนที่รู้ตัวและยอมรับสภาพได้ ก็เตรียมการเบื้องหลังไว้เรียบร้อยทุกอย่าง ถ้าหากว่าพวกเราเจ็บไข้ได้ป่วย สามารถปล่อยได้วางได้ ก็จะจัดการเรื่องหลังไว้ดี ๆ แบบเดียวกับของคุณติ๊กที่ผ่านมา
อาตมาวิ่งขึ้นไปฟังสวดอภิธรรมได้คืนเดียว เพราะว่ารุ่งขึ้นมีงานพุทธาภิเษกที่วัดบ้านห้วยน้ำขาว เสร็จจากนั้นต้องสอนหนังสือแล้วก็ประชุม จากนั้นก็มารับสังฆทาน ไม่มีเวลาว่างเลย แต่ก็ยังดีไปได้คืนหนึ่ง
คุณติ๊กมีลูกน่ารักอยู่ ๓ คน เป็นผู้หญิง ๒ คน ผู้ชาย ๑ คน ผู้หญิง ๒ คนสมัยเล็ก ๆ ไปอยู่ที่เกาะพระฤๅษีกันเป็นเทอมเลย พาไปเดินป่าเดินดง ลำบากลำบน ตอนนี้ถามเด็ก ๆ ว่าชีวิตลำบากไหม ? ไม่ลำบากหรอก ตอนที่หลวงพ่อพาไปนั่นลำบากที่สุดแล้ว โบราณเขาถึงบอกว่า ลำบากก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือ เพราะถ้าเราเจอของที่ลำบากที่สุด ทุกอย่างก็สบายหมด ไม่มีอะไรลำบากไปกว่านั้นแล้ว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-07-2016 เมื่อ 07:50
|