ยันต์เกราะเพชรนั้นเป็นบารมีของพระพุทธเจ้า ที่เมตตาสงเคราะห์แก่ผู้ที่มีความเลื่อมใส การเป่ายันต์เกราะเพชรหรือสร้างยันต์เกราะเพชร เป็นไปตามตำราพระร่วงที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคกรุงสุโขทัย โดยการนำเอาบทพุทธคุณ คือ อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ฯลฯ จนถึง ฯลฯ ภะคะวาติ จำนวน ๕๖ คำ มาเขียนลงเป็นแถว แถวละ ๘ คำ รวม ๗ แถวด้วยกัน แล้วชักสูตรสำเร็จเป็นยันต์เกราะเพชร
ถ้าท่านใดที่รู้จักธงมหาพิชัยสงครามก็จะได้รู้ว่า ยันต์เกราะเพชรจริง ๆ แล้วก็คือยันต์ลูกของธงมหาพิชัยสงครามนั่นเอง ธงมหาพิชัยสงครามเป็นธงนำทัพในสมัยพระร่วง ผืนเดียวสามารถคุ้มได้ทั้งกองทัพ ระยะหลัง ๆ ครูบาอาจารย์หลายท่าน สร้างเครื่องรางที่ป้องกันบุคคลที่ร่วมรบได้ อาจจะป้องกันได้ครั้งละ ๑๐ คน ๑๐๐ คน ๑,๐๐๐ คนแล้วแต่ความสามารถของตน เขาเรียกกันว่า ตะกรุดแม่ทัพ นั่นก็เป็นส่วนของยันต์เกราะเพชรเช่นกัน ซึ่งก็คือส่วนหนึ่งของธงมหาพิชัยสงครามนั่นเอง
แต่ว่าตะกรุดแม่ทัพนี้ ถ้าเป็นหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส ท่านเรียกว่า ตะกรุดมหาโจร ก็คือถึงเวลาออกรบ ต้องแต่งกองโจรออกไปเพื่อตีปล้นค่ายของข้าศึก บุคคลที่เป็นหัวหน้าจะต้องคุ้มกันลูกน้องตัวเองได้ทั้งชุด ก็ต้องพกเอาตะกรุดนี้ติดตัวไป ซึ่งถ้าเป็นสายของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หรือวัดบ้านแค หรือหลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ท่านจะเรียกว่า ตะกรุดแม่ทัพ แต่หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส ท่านเรียกว่า ตะกรุดมหาโจร ก็คือหัวหน้ากองโจรที่ออกไปปล้นค่ายข้าศึก
ก็แปลว่าจริง ๆ แล้วตำราของตะกรุดแม่ทัพ ก็ไปจากยันต์เกราะเพชรซึ่งมาจากธงมหาพิชัยสงครามนั่นเอง เป็นส่วนบทพุทธคุณที่จารึกอยู่บริเวณคอธง เมื่อนำมาชักสูตรสำเร็จเป็นยันต์เกราะเพชรแล้ว ก็มีอุปเท่ห์วิธีการใช้ที่แตกต่างกันไป
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 23-07-2016 เมื่อ 16:19
|