ดูแบบคำตอบเดียว
  #34  
เก่า 12-06-2012, 22:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,281 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พอรู้หลาย ๆ ภาษาก็สนุกดี แต่อาตมาไปเมืองจีนแล้วใช้ภาษาที่นั่นไม่ได้ เพราะภาษาที่อาตมาใช้เป็นภาษาที่ปู่ย่าพ่อแม่พูด ตกยุคไป ๗๐-๘๐ ปีแล้ว ปู่ย่ามาจากเมืองจีนอย่างไรเขาก็ใช้อย่างนั้น แต่เมืองจีนพัฒนาภาษาไปเรื่อย พวกเราไปที่นั่นพูดไปเขาพอรู้เรื่อง แต่ที่เขาพูดมาเราฟังไม่รู้เรื่องเลย

พอเข้าไปในวังต้องห้าม ถึงได้รู้ว่าเขาตีวังยากเย็นนักหนาเพราะประตูทางเข้าใหญ่ที่สุดแค่ม้า ๓ ตัวเรียงกัน ศัตรูมามากแค่ไหน ก็เข้าได้แค่ทีละ ๓ - ๕ คน

พอเข้าไปจนถึงด้านในของวัง บรรดาที่พักของฮองเฮาหรือสนมกำนัล รู้สึกว่ามืด ๆ ทึบ ๆ ถ้าสมัยนั้นไม่ได้ใช้ไฟช่วย คาดว่าคนสมัยนั้นต้องสายตาดีเป็นพิเศษ และไม่ต้องห่วง..พวกที่มาขอส่วนบุญมีเพียบเลย ตายแล้วไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด บางทีเป็นประเภทจิตใจอาฆาตพยาบาท ไม่รับอะไรเลยก็มี ตายเพราะโดนใส่ร้าย อยุติธรรมอะไรพวกนี้

เรื่องของในรั้วในวัง สภาพจริง ๆ ในสมัยนั้นอยู่ในลักษณะที่ว่า เหยียบใครลงไปได้ก็ต้องรีบเหยียบ เพราะฮ่องเต้แต่ละองค์มีพระสนมเป็นพัน ถ้าใครมีลูกชายก็จะกลายเป็นเป้าทันที ทีนี้ไม่ใช่มีลูกชายคนเดียว ยังมีคุณชายที่ ๑ คุณชายที่ ๒ จนถึงที่ ๑๐ อาจจะถึงที่ ๑๐๐ ก็ต้องแย่งชิงกัน พออยู่ในภาวะได้เปรียบ เหยียบใครลงไปได้ก็ต้องเหยียบเลย ทำให้บางคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่โดนโยนความผิดให้ ต้องตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยความเคียดแค้น ขนาดพระจะอุทิศส่วนกุศลให้ เขายังไม่เอาเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2012 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา