ถาม : มีรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าองค์ใดบ้าง ?
ตอบ : พระพุทธเจ้ามีพระนามว่ากกุสันโธ พระพุทธเจ้ามีพระนามว่าโกนาคมน์ พระพุทธเจ้ามีพระนามว่ากัสสปะ เป็นพระพุทธเจ้าแบบศรัทธาธิกะ บำเพ็ญบารมีมา ๘ อสงไขยกับแสนมหากัป พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันคือพระพุทธเจ้ามีพระนามว่าโคตมะ เป็นพระพุทธเจ้าแบบปัญญาธิกะ บำเพ็ญบารมี ๔ อสงไขยกับแสนมหากัป พระศรีอาริยเมตไตรยไม่เหมือนใคร เป็นพระพุทธเจ้าแบบวิริยาธิกะ บำเพ็ญบารมี ๑๖ อสงไขยกับอีกแสนมหากัป สิ่งที่พระองค์ท่านทำก็เพื่อความสุขของบริวารทั้งนั้น
พระพุทธเจ้าที่เป็นปัญญาธิกะบำเพ็ญบารมี ๔ อสงไขยกับแสนมหากัป บริวารมีสวยมีอัปลักษณ์ มีรวยมีจน มีดีมีชั่ว ปนเปกันไป พระพุทธเจ้าที่เป็นศรัทธาธิกะ บำเพ็ญบารมี ๘ อสงไขยกับแสนมหากัป บริวารของพระองค์ท่านจะดี สวย รวย เสมอกันหมด ในเขตที่พระองค์ท่านประกาศพระศาสนา คนชั่วจะเข้ามาไม่ได้ อย่างเช่น ถ้าประเทศไทยเป็นเขตที่พระองค์ท่านประกาศพระศาสนา คนชั่วจะมาเกิดในประเทศไทยไม่ได้ หรือเกิดแต่เข้าประเทศไทยไม่ได้
แต่ถ้าเป็นพระพุทธเจ้าแบบวิริยาธิกะ นอกจากบริวารจะดี สวย รวย เสมอกันหมดแล้ว โลกในยุคนั้นคนชั่วเกิดไม่ได้ เจอคำสั่งห้ามเกิดชั่วคราว รอไปก่อน เช่นนั้นก็แปลว่าในภัทรกัปนี้มีสมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรยทรงบำเพ็ญบารมีมายาวนานที่สุด คือ ๑๖ อสงไขยกับแสนมหากัป เหนื่อยมากกว่าพระองค์อื่น เหนื่อยเพื่อบริวาร แต่ที่พระองค์ท่านยอมเหนื่อยเพราะว่าสบายตอนสอน เทศน์ทีเดียวเป็นพระอรหันต์กันหมดเลย ไม่ต้องเสียเวลามาไล่ต้อนกันนาน
คราวนี้ถ้าเป็นฆราวาสบรรลุก็ไปสบายก่อน ถ้าหากว่าเป็นพระเป็นเณรก็ต้องอยู่ไปตามอายุขัยของตน สงสัยอยู่อย่างเดียว ตอนนั้นไม่มีฆราวาสอยู่เลี้ยงแล้ว ไปกันหมดแล้ว พระคงอยู่ด้วยธรรมปีติกัน โลกยุคนั้นเขาว่ามีต้นกัลปพฤกษ์ ใครอยากได้อะไรก็ไปสอยเอา
ถาม : สมัยนั้นยังมีการบวชพระหรือไม่คะ ?
ตอบ : ยุคนั้นเป็นการบวชแบบเอหิภิกขุอุปสัมปทา พระพุทธเจ้าตรัสให้การอุปสมบทก็กลายเพศเป็นพระภิกษุ ต่อให้เป็นพระเพิ่งบวชใหม่ก็มีอาจาระดั่งพระเถระที่บวชมาได้ถึง ๑๐๐ พรรษา
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-06-2012 เมื่อ 17:49
|