เชื่อว่าพวกเราทุกคนตั้งใจเรียน เมื่อตั้งใจเรียนแล้วให้ทำความเข้าใจบทเรียนไปด้วย พร้อมกับตั้งคำถามไว้ในใจด้วย โดยเฉพาะส่วนที่เราไม่เข้าใจหรือสงสัยจริง ๆ ให้ถามอาจารย์ อาจารย์จะชอบเด็กที่ถามมากกว่านั่งเงียบ ๆ เพราะอย่างน้อยก็แสดงปฏิกิริยาออกให้รู้ว่าเข้าใจหรือไม่เข้าใจ ถ้าเราไปนั่งเงียบ กลัวอาย กลัวเสียฟอร์ม กลัวเพื่อนจะว่า “จะจริงจังอะไรกับชีวิตมากมายวะ มึนไปวัน ๆ เดี๋ยวก็จบแล้ว” ถ้าอย่างนั้นชีวิตนี้เฉาแน่
โบราณเขาบอกแล้ว สุ จิ ปุ ลิ วินิมุตโต กถัง โส ปัณฑิโต ภเว บุคคลจะเป็นบัณฑิตได้ต้องประกอบไปด้วย สุ จิ ปุ ลิ สุ ก็คือสุตตะ ตั้งใจฟัง จิ ก็คือจิตตะ ตั้งใจคิดตาม ปุ คือปุจฉา สงสัยให้ไต่ถาม ลิ คือลิขิต จดเอาไว้อ่านทบทวนด้วย ถ้าทำอย่างนั้นได้ก็เรียนเก่งทุกคน
วิชาที่มี ๓ หน่วยกิต อาตมานั่งฟังตั้งแต่ต้นชั่วโมงยันท้ายชั่วโมง นั่ง ๓ ชั่วโมงไม่ไปไหนเลย แต่เพื่อนทนฟังได้ ๑๕ นาทีก็หันไปคุยกันแล้ว เพราะฉะนั้น..คนที่ทำสมาธิจะได้เปรียบ เพราะใจเรามุ่งมั่นอยู่กับบทเรียน เท่าที่เรียนมาจะชอบใจที่สุด ก็คือ ผศ.ประสิทธิ์ ทองอุ่น ๓ ชั่วโมงอาจารย์สามารถพูดไปได้เรื่อย ๆ เหมือนอย่างกับน้ำไหลไม่ขาดสายสักที เพราะว่าท่านสอนมาทั้งชีวิต พวกบรรดาเนื้อหาต่าง ๆ อยู่ในหัวท่านอยู่แล้ว ๓ ชั่วโมงพูดได้ไม่หยุดเลย อาตมาเองก็ต้องจับจุดแล้วก็บันทึกเอาไว้
เด็กสมัยนี้ไม่มีใครเรียนชวเลข ตั้งแต่มีพวกเทป พวกเครื่องบันทึกเสียง ก็อาศัยเครื่องพวกนี้บันทึกเสียงไว้แทน ถ้าหากว่าพวกเราไปเจอพระเรียนเข้าเจ็บปวดกว่านั้นอีก ถึงเวลาอาจารย์ขึ้น Power Point มีหลวงตายก iPad ถ่ายรูปเก็บไว้เลย ยืนยันว่าหลวงตา เรียนปริญญาโทรุ่น ๒ ถัดจากอาตมานี่แหละ อาตมาเห็นก็ "โอ้โหเว้ย..!" ไม่ใช่แต่อาตมาหรอก อาจารย์ผู้สอนก็โอ้โห..เหมือนกัน ว่าหลวงตาทันสมัยขนาดนี้เลยหรือ ? แต่ต้องบอกว่าท่านสนใจจริง กลัวจดไม่ทันยก iPad ถ่ายไว้เลย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2012 เมื่อ 19:00
|