ศาสนาก็เลื่อมใส แต่หัวใจ...
ในระยะนี้เป็นช่วงที่หนุ่มบัวเติบโตเป็นหนุ่มเต็มที่แล้ว ทำให้เริ่มคิดคำนึงถึงเรื่องหญิงสาวที่จะมาเป็นคู่ครอง ท่านกล่าวถึงภาวะจิตใจในตอนนั้นว่า
“เรื่องความเคารพในศาสนา เลื่อมใสในพระในเณรนั้น เราเลื่อมใสมาโดยตลอด ไปใส่บาตรแต่เด็กก็ไปกับผู้ใหญ่ เวลาโตขึ้นมาความเลื่อมใสในศาสนาก็มาก แต่กิเลสมันก็มีมากอยู่เหมือนกัน เห็นเขามีลูกมีเมียก็คิดอยากมีลูกมีเมีย มีครอบมีครัวกับเขา”
และแล้วความคิดที่ตั้งไว้อยู่ภายในใจนี้ ก็ได้ถูกเปิดออกมาเพราะผู้เฒ่าคนหนึ่ง เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่งขณะที่ท่านกำลังสนทนากันกับหนุ่มเถิง เพื่อนสนิทของท่านอยู่นั้น ผู้เฒ่าคนนี้อายุราว ๕๐ ปี มาจากอำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ลักษณะของผู้เฒ่าเป็นคนสุขุมไม่ค่อยพูด แกนั่งอยู่ในบริเวณนั้นจึงได้ยินสองหนุ่มพูดคุยกันมาตลอด หนุ่มเถิงพูดแต่ว่าจะบวช ๆ คงจะพูดเรื่องบวชอยู่นาน จนผู้เฒ่าชักจะรำคาญละมัง จึงว่า
“ไหนพ่อขอดูลายมือหน่อยนะ มานั่งฟังอยู่นี้มีแต่จะบวช ๆ มันจะได้บวชหรือ ? ไหนให้พ่อดูลายมือหน่อย” ผู้เฒ่าดูลายมืออยู่เงียบ ๆ สักพักหนึ่งแกก็พูดขึ้นว่า “...จ้างก็ไม่ได้บวช นี่ไม่กี่วันมันจะมีเมีย มันติดกันอยู่แล้ว นี่คู่ของมันติดอยู่นี่ มันแยกไม่ออก มันจะแยกออกได้‘ยังไง’...”
ผู้เฒ่าไม่ใช่พูดแบบธรรมดา ๆ แต่พูดแบบยืนยันเลย แกเป็นคนนิสัยไม่ค่อยพูด เป็นคนเคร่งขรึม พอเห็นผู้เฒ่าทำนายเพื่อนแบบนี้ เลยทำให้หนุ่มบัวรู้สึกยิ่งคึกคักมั่นใจไปด้วย เพราะไม่ต้องการจะบวช แต่ต้องการจะเอาเมีย เมื่อเพื่อนดูเสร็จเรียบร้อย หนุ่มบัวจึงขอให้ดูบ้าง
“ดูให้ผมหน่อย...” หนุ่มบัวพูดด้วยความกระหยิ่มใจว่า อย่างไรต้องได้เมียแน่คราวนี้
แต่การณ์กลับตรงข้าม ผู้เฒ่าดูอยู่ครู่หนึ่ง แกพูดขึ้นว่า
“เอ้อ! ผู้นี้ใช่ละนี่ ผู้นี้ถึงถูก ได้บวชแน่ ๆ จะได้บวช นี่สายบวชเต็มแน่วแล้วเวลานี้ จะบวชเร็ว ๆ นี้...”
ผู้เฒ่ากล่าวด้วยความมั่นใจเช่นนี้ ถึงกับทำให้หนุ่มบัวหน้าซีดเผือดลงทันที ดังนั้นเพื่อความแน่ใจว่าผู้เฒ่าอาจจะดูผิดไปหรือไม่อย่างไรกัน จึงรีบบอกไปว่า
“เอ๊ะ! ว่าจะเอาเมียอยู่นะ ผมอยากจะแต่งเมียอยู่นะ”
แทนที่ผู้เฒ่าจะลังเลใจ กลับยิ่งพูดอย่างยืนยันเลยว่า “จ้างก็ไม่ได้แต่ง..!!”
และในที่สุด ท่านก็ไม่มีครอบครัวเหย้าเรือนตามที่เคยตั้งใจไว้เดิม แม้จะมีหญิงสาวที่หมายมั่นตกลงปลงใจระหว่างกันแล้วก็ตามที แต่ครั้นพอจะให้เป็นจริงเป็นจังขึ้นมาครั้งใด กลับหาจุดที่เหมาะสม ลงตัวลงใจกันมิได้สักที
อีกทั้งด้วยนิสัยที่เป็นคนเคารพในเหตุผลเหนือสิ่งอื่นใด ดังนั้นเมื่อเหตุผลยังเป็นที่ลงกันไม่ได้ แม้ความรักจะมากเพียงใด ท่านก็ยอมอดยอมทนได้ และด้วยเหตุนี้เองความคิดของท่านที่จะมีครอบมีครัว จึงเหมือนมีสิ่งมากีดมาขวางให้คลาดแคล้วจนได้ทุกทีไป ชะรอยจะเป็นเพราะ ปุพเพ จ กตปุญญตา อำนาจบุญกรรมที่ท่านเคยสร้างสมอบรมมา แต่ดั้งแต่เดิมให้ผลมากกว่าจะเป็นเรื่องการทำนายทายทักจากหมอดู บุญนี้จึงให้ผลอุดหนุนผลักดันชีวิตของท่านให้ไปในทางอันประเสริฐ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2012 เมื่อ 15:07
|