พระอาจารย์เล่าว่า "อาตมาไปกราบหลวงปู่ดู่ครั้งแรก ก็มีพระวัดท่าซุงตามไปหลายรูป เมื่อสนทนาปราศรัยกันเรียบร้อยก็กราบเรียนท่านว่า “ขอให้หลวงปู่ท่านเมตตาให้โอวาทด้วยครับ พวกผมจะได้ยึดเป็นเครื่องปฏิบัติสืบไปในเบื้องหน้า”
หลวงปู่ท่านบอกว่า “ครูบาอาจารย์ผมไม่ได้สอนอะไรมากมายหรอก ท่านบอกว่ามีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่งก็พอแล้ว” อาตมาก็กราบก้นโด่งคลานออกมา ท่านตี๋ (พระนิติ สุธมฺมสุนฺทโร) คลานตามมาสะกิด "เฮ้ย..ยังไม่ได้อะไรเลย จะกลับแล้ว ?" "หา..ยังไม่ได้อะไรเลยหรือ ? พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่งนี่ยันพระนิพพานแล้วนะ"
ต้องเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อย่างจริงใจใช่ไหม ? ถ้าเราเคารพ เราก็ตั้งใจปฏิบัติในศีลตามที่ท่านสอน ก็เหลืออย่างเดียวคือตั้งใจว่าตายแล้วจะไปไหน ครูบาอาจารย์ท่านให้เพชรยอดมงกุฎมาดันไม่รู้จัก แค่เอาไปต่อยอดมงกุฎก็จบแล้ว
หลวงปู่ดู่ท่านมีประโยคประทับใจเยอะ บางทีคำสอนท่านเหมือนกับคำสอนของเซ็น ท่านสอนสั้น ๆ แต่กินใจ กระทบใจมาก อย่างคนไปต่อว่าท่านเรื่องสร้างวัตถุมงคล ท่านตอบสั้น ๆ ว่า “ติดวัตถุมงคล ดีกว่าติดวัตถุอัปมงคล” จบแค่นั้นเลย บางคนไปเที่ยวว่าคนนั้น ไปเที่ยวนินทาคนนี้ให้ได้ยิน ท่านบอกว่า “คนดีเขาไม่ตีใคร” คนพูดเฉาไปเลย จบกันแค่นั้น
บางคนมาลาท่าน ขอไปปฏิบัติที่สำนักอื่น ท่านก็บอกว่า “ข้าโมทนากับแกด้วย ข้าไม่มีโอกาสไป” ไม่เห็นท่านจะว่าลูกศิษย์สักคำ ลูกศิษย์อยู่กับโคตรเพชรแล้วไม่รู้จัก อุตส่าห์ตะกายไปที่อื่น ท่านเองก็ไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยเขาไปตามใจของเขา"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-05-2012 เมื่อ 03:56
|