ดูแบบคำตอบเดียว
  #10  
เก่า 17-05-2012, 11:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,678
ได้ให้อนุโมทนา: 152,056
ได้รับอนุโมทนา 4,417,102 ครั้ง ใน 34,268 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ในอัคคัญญสูตรพระพุทธเจ้าตรัสถึงการกำเนิดโลก การกำเนิดสิ่งของมีชีวิต ทรงตรัสกับวาเสฏฐสามเณรและภารทวาชสามเณร จริง ๆ แล้วสองท่านนี้ไม่ใช่เด็ก เป็นอาจารย์ใหญ่สอนไตรเพท พอได้ฟังเทศน์ของพระพุทธเจ้าแล้วเลื่อมใสขอบวช เนื่องจากว่าเป็นคนนอกศาสนา ต้องอยู่ติตถิยปริวาส ๙ เดือน ทั้งสองจึงบวชเป็นสามเณรก่อน ด้วยความที่เป็นอาจารย์ใหญ่มาก่อน ปัญหาแต่ละอย่างของท่านจึงลึกซึ้ง

พระพุทธเจ้าจึงต้องตรัสถึงกำเนิดโลกว่า มนุษย์เกิดมาจากอาภัสราพรหมที่ลงมากินง้วนดิน เนื่องจากไฟบรรลัยกัลป์ไหม้แล้วฝนใหญ่ตกทับ ทำให้ง้วนดินนั้นมีกลิ่นหอมมาก ขนาดอาภัสราพรหมได้กลิ่นยังทนไม่ได้ต้องลงมาชิม พออาภัสราพรหมกินของหยาบเข้าไปกายทิพย์ก็เลยหยาบขึ้น เมื่อกายทิพย์หยาบขึ้นรัศมีก็หายไป จึงได้เกิดพระอาทิตย์พระจันทร์ขึ้นมา ไม่อย่างนั้นตัวเองก็ไม่รู้จะไปอย่างไรเพราะมีแต่ความมืด

พอกินไป ๆ ง้วนดินหมด เกิดเป็นเถาดิน เถาดินหมดก็เกิดเครือดิน กินไปเรื่อย ๆ ร่างกายหยาบขึ้น เพศปรากฏขึ้น เมื่อเพศปรากฏขึ้น ต่างฝ่ายต่างมองนิมิตของอีกฝ่ายหนึ่ง เกิดความสนใจ ไปจับ ๆ คลำ ๆ เข้าก็เกิดความกำหนัด จึงเสพเมถุนมีลูกมีหลานสืบตระกูลกันมา

ช่วงแรก ๆ การทำมาหากินไม่ลำบาก เพราะมีข้าวสาลีรวงโต ๆ ไม่ต้องไถ เป็นเมล็ดข้าวสารออกจากรวง ไม่มีเปลือก ขาวสะอาด ไปรูดมาหุงกินได้เลย ต่อมาด้วยความขี้เกียจของคนผู้หนึ่ง ขี้เกียจไปเก็บข้าวบ่อย ๆ จึงนำมาตุนไว้ แล้วชักชวนคนผู้อื่นให้ทำแบบนี้บ้าง ด้วยกรรมที่กระทำนี้ทำให้เปลือกข้าวเกิดมาห่อหุ้มเมล็ดข้าว ก็เลยลำบากคนรุ่นหลังต้องมาตำข้าวสีข้าวกันอีก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-05-2012 เมื่อ 03:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา