พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยอาตมาเป็นฆราวาส ไปวัดแต่ละที พาญาติโยมไปวัดกันหลายคน ส่วนใหญ่ก็เป็นสาวรุ่น ๆ เรียนหนังสืออยู่บ้าง เรียนจบแต่ยังหางานทำไม่ได้บ้าง อยากไปทำบุญแต่หาคนที่ไว้ใจไม่ได้ คราวนี้พอพ่อแม่เขาเห็นว่าไปกับอาตมา เขาก็ไว้ใจเพราะว่าไปรับและไปส่งตรงเวลา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามจะต้องรับส่งตรงเวลา ก็เลยกลายเป็นที่น่าเชื่อถือ มีแต่คนฝากลูกสาวมา คณะก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
พูดเรื่องนี้ก็นึกถึงหลวงพ่อสมคิด วัดตะเคียนงาม หลวงพ่อสมคิดบวชก่อนอาตมาประมาณ ๕ เดือนครึ่ง รู้จักกับอาตมาตั้งแต่เป็นฆราวาสแล้ว อาตมาเป็นคนสอนมโนมยิทธิให้ท่านเอง ทั้ง ๆ ที่ท่านบวชก่อน แต่ท่านกราบอาตมาทุกครั้ง ท่านบอกท่านกราบในฐานะอาจารย์ จะรับหรือไม่รับท่านก็กราบ
หลวงพ่อสมคิดท่านบอกว่า "ผมนึกว่าอย่างไรชาตินี้อาจารย์ไม่ได้บวชแน่แล้ว สาว ๆ ไปด้วยเยอะปานนั้น" ไปกันทีไปเป็นหมู่คณะ ขึ้นรถโดยสารครั้งหนึ่งเต็มไปครึ่งคัน เวลาไปต่างจังหวัดตามหลวงพ่อวัดท่าซุง เขาจะมีการจัดรถตามไป พวกเราไปร่วมบุญด้วย ได้ไปทำบุญวัดต่างจังหวัดด้วย อย่างวัดหลวงปู่ครูบาธรรมชัย วัดหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ วัดหลวงพ่อบุญรัตน์ อาตมาเหมือนพี่ใหญ่ของคณะ มีหน้าที่ซื้อตั๋วแจก เหมาทีครึ่งคัน มีอยู่เที่ยวหนึ่งช้ำใจมาก ซื้อตั๋วแล้วน้องคนหนึ่งติดธุระสำคัญไปไม่ได้ ขากลับเลยซื้อตุ๊กตาชาวเขาตัวเท่าคนมานั่งแทน..!
ที่ไปลักษณะนั้นก็ตั้งใจว่าเป็นการสงเคราะห์น้อง ๆ เขาจริง ๆ เพราะว่าบางคนเรียนหนังสืออยู่บ้าง บางคนเรียนจบแล้วไม่มีงานทำบ้าง อาตมาบอกว่าเงินที่พวกเขามีอยู่ให้เอาไว้ทำบุญ เงินที่เหลืออยากจะซื้อของอะไรก็จะได้ซื้อ ส่วนเรื่องค่ารถ ค่ากิน ค่าอยู่ อาตมารับผิดชอบทั้งหมด ตอนนั้นอาตมาทำงานไม่ได้เงินเดือนเยอะแยะอะไรหรอก ประมาณ ๗ พันบาท แต่ว่า ๗ พันบาทประมาณปี ๒๕๒๐ ถือว่ามาก เพราะว่าอาตมากินไม่เป็น เที่ยวไม่เป็น ไปวัดเป็นอย่างเดียว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-04-2012 เมื่อ 16:40
|