การบอกบุญเป็นเรื่องดี แต่ถ้าหากว่าเราบอกพร่ำเพรื่อจนเกินไป ก็จะกลายเป็นเรื่องที่น่ารำคาญใจ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เราค่อย ๆ ศึกษาแล้วสังวรระวังไว้ ถ้าจะต้องรบกวนคนก็รบกวนให้น้อยที่สุด เพราะว่าการติดหนี้บุญคุณนั้น เป็นหนี้ที่ใช้ไม่หมด ไม่มีอะไรที่จะใช้ยากไปกว่าหนี้บุญคุณอีกแล้ว
ผมเองมีโยมปวารณาชนิดที่ให้ขออะไรก็ได้ เท่าไรก็ได้ ๓๐ กว่าราย แล้วหลายรายที่เขาสามารถให้ได้ทีละหลาย ๆ ล้าน แต่ผมไม่เคยรบกวนเขาเลย เพราะว่าไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร ผมไม่ได้ต้องการให้พวกเราเลียนแบบ แต่คิดว่า ถ้าเราอยู่ในสภาพของนักบวช ไม่ได้สงเคราะห์ช่วยเหลืออะไรเขานักหนาแล้ว แล้วยังไปรบกวนคนอื่นด้วยการขออีก ก็จะมีแต่เสีย สภาพของนักบวชอยู่ที่ต้องมีความยินดีในความสันโดษของตน
ดังนั้น..ให้พวกเราทุกคนระวังเอาไว้ให้ดี รักษากำลังใจของเราให้ดีที่สุด การอยู่ร่วมกันที่ผ่านมาถือว่าใช้ได้แล้ว ก็เหลือแต่ว่าต้องเสริมสร้างในเรื่องของ ศีล สมาธิ ปัญญา ของเราให้มากขึ้น ให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป
ก่อนจะออกพรรษาพยายามกอบโกยความดีใส่ตัวให้มากที่สุด เพราะเขาถือว่าในช่วงนี้เป็นช่วงสำคัญ แต่ถ้าเป็นในการปฏิบัติจริง ๆ แล้ว ถือว่าสำคัญอยู่ทุกวินาที สำหรับวันนี้คงต้องพอเท่านี้ก่อน ผมต้องขออนุญาตขอสัตตาหะ*จากทุกท่านด้วย
หมายเหตุ :
*สัตตาหะกรณียะ : ธุระอันเป็นเหตุให้ภิกษุออกจากวัดในระหว่างพรรษาได้ แต่ต้องไม่เกิน ๗ วัน ได้แก่ ๑). ไปเพื่อพยาบาลสหธรรมิก หรือ มารดาบิดาผู้เจ็บไข้ ๒). ไปเพื่อระงับสหธรรมิกที่กระสันจะสึก ๓). ไปเพื่อกิจของสงฆ์ เช่น ไปหาทัพพสัมภาระมาซ่อมวิหารที่ชำรุดลงในเวลานั้น ๔).ไปเพื่อบำรุงศรัทธาของทายกซึ่งมานิมนต์เพื่อการบำเพ็ญกุศลของเขา ธุระอื่นที่เป็นกิจจะลักษณะ ก็พอจะอนุโลมตามนี้ได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 01-04-2012 เมื่อ 15:26
|