ถาม : มีครั้งหนึ่งผมถวายสังฆทานกับหลวงตาวัดป่าท่านหนึ่ง แล้วถวายพระพุทธรูปไปด้วย ท่านบอกว่าพระพุทธรูปท่านรับให้แล้ว ให้เอากลับไปบูชาที่บ้านได้ อย่างนี้ผมต้องชำระหนี้สงฆ์ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ต้อง..เพราะท่านให้เราเอง ส่วนหลวงตาก็เป็นหนี้สงฆ์ไป เราไม่ได้เป็นหนี้สงฆ์ สำหรับพระป่าอะไรที่ดูแลยาก รุงรังเกินไป ท่านก็มักจะให้วัดอื่นหรือให้คนอื่นไป
ไม่ต้องอะไรมากหรอก นึกถึงงานพุทธาภิเษกที่วัดเขาวงก็แล้วกัน คนที่ทำบุญเขาจะทำบุญอย่างเดียว เขาไม่ได้ดูว่าอาตมาจะเอาไปได้หรือเปล่า ย่ามของอาตมามีคนใส่น้ำมา ๑ ขวด สมุดบันทึกไดอารี่ ๔ เล่ม แล้วจะเหลืออะไรให้คนอื่นใส่ ? นั่นลักษณะทำบุญแบบไร้สติ กูจะทำอย่างเดียว ไม่ได้ดูว่าคนรับจะเอาไปได้หรือเปล่า ?
ส่วนอีกรายหนึ่งใส่ลักษณะเหมือนกับเป็นไฟฉาย คราวนี้มาในกรอบกระดาษแก้วซึ่งเป็นที่ครอบด้วย ใส่มาคนเดียว ๓ อัน แล้วย่ามใบแค่นี้จะใส่อย่างไร คนอื่นเขาก็จ้องใส่ กว่าอาตมาจะเดินหลุดออกมาได้แทบตาย ยังดีได้ถุงก๊อบแก๊บมาอีก ๓ ใบ ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าคนอื่นจะใส่อะไร เพราะเต็มจนล้นแล้ว
สรุปแล้วกลับจากวัดเขาวงมา นอกเหนือจากปัจจัยส่วนที่ถวายหลวงตาไปแล้ว ยังมีติดกลับมาอีกหนึ่งแสนสองหมื่นกว่าบาท คนจำนวนหนึ่งเขามาเพื่อดูหน้าอาตมาเท่านั้น เพราะได้ยินแต่ชื่อไม่เคยเห็นหน้า ส่วนอีกจำนวนหนึ่งถ้าอาตมาเป็นสาว ๆ ต้องบอกว่าโดนลวนลาม เพราะเขาเล่นจับ ๆ คลำ ๆ แล้วเอามือไปลูบหัว อาตมาว่าถ้ามือสากหน่อย คงลูบอาตมาจนสึกไปเป็นแถบ ๆ ไปแล้ว..!
เวลาเห็นคนที่เขาศรัทธามาก ๆ แต่ปัญญายังน้อยอยู่ การแสดงออกของเขา บางทีก็รู้สึกว่าน่าสงสาร แต่ก็ยังดีที่เขายึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง แม้ว่าเป็นการยึดตัวตนอยู่ก็ต้องถือว่ายึดแล้ว เพราะเราต้องเกาะดีไว้ก่อน ก่อนที่จะปล่อยดีทีหลัง ประเภทนี้ยังต้องฝ่าฟันอีกหลายชั้นเลย กว่าที่จะรู้ว่าคุณพระรัตนตรัยที่แท้จริงเป็นอย่างไร ตอนนี้เขายึดตัวบุคคลเป็นเหตุ ก็ต้องให้เขายึดไปก่อน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-03-2012 เมื่อ 02:35
|