ท่านรู้อยู่อย่างเดียวว่า บ่ายสี่โมงจะต้องอาเจียนทุกวัน มาเลเรียจะขึ้นตรงเวลา พวกนี้มารยาทดี ตอกบัตรทำงานตามเวลา ช่วงบ่ายถ้าอยู่ที่วัด ท่านจะรับสังฆทานบ่ายโมงถึงสี่โมงเย็น กลับถึงกุฏิเมื่อไรก็คว้ากระโถนมาได้เลย
ท่านบอกว่า “คิดว่าพระท่านช่วย” ตอนที่รับสังฆทานอยู่ก็ไม่เป็นไร พอกลับมาถึงจะอาเจียน กว่าจะรู้ว่าเป็นมาเลเรียก็ตอนที่เกือบ ๆ จะวาระสุดท้ายแล้ว พอวาระกรรมเปิด พระท่านก็แสดงภาพให้ดู ปรากฏว่าท่านเป็นมาเลเรียมาตลอด แต่ท่านไม่รู้
เรื่องของมาเลเรีย ถ้าคุณเป็นเมื่อไรแล้วจะรู้ ถ้ากำเริบขึ้นมา ชีวิตนี้ก็ไม่อยากได้แล้ว มาเลเรียจะไปกระตุ้นอาการเจ็บเก่า ๆ หรือว่าบาดแผลแม้แต่เล็กน้อยของเรา ให้กลายเป็นอักเสบหนักหมดเลย มีอยู่เที่ยวหนึ่ง พอกำเริบขึ้นมา พอดีหลวงพ่อเป็นแผลร้อนใน เชื่อไหมว่า มันลามลงไปในคอ ลามลงไปในหลอดอาหาร ลามลงไปในกระเพาะ ลามลงไปในลำไส้
ท่านบอกว่าเห็นแกง ตักใส่ปาก พอเข้าปากเท่านั้นแหละ แสบลงไปจนรู้เลยว่าไส้มีอยู่กี่ขด ความเผ็ดของแกงนิดเดียว ที่เราแทบไม่รู้สึก มาแตะปลายลิ้นเท่านั้น ความที่ท่านอักเสบ จึงรู้สึกเป็นจนขนาดนั้น ก็เลยอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้
อีกท่านหนึ่งก็คือหลวงปู่มหาอำพัน* หลวงปู่มหาอำพันท่านมีโรคประจำตัวคือเก๊าท์ จะต้องฉันยาโคลเบเนมิด**อยู่ทุกวัน วันละเม็ด เพื่อคุมเก๊าท์เอาไว้ ปรากฏว่าคุณหมอลูกศิษย์ไปนอก ยาหมด...
วันที่สามเท่านั้นแหละ ท่านนอนครางโอย..โอย.. ผมต้องนวดให้ท่าน แต่ไม่ใช่นวด ต้องเรียกว่าลูบมากกว่าเพราะแตะไม่ได้ คนเป็นเก๊าท์จะเจ็บขนาดหนัก แต่ถ้าหากว่าไม่มีการไปผ่อนคลายบ้างเลย ก็จะยิ่งหนักเข้าไปใหญ่
ท่านนอนครางโอย..โอย..อยู่ ผมก็..อะไรวะ ? พระอรหันต์นี่เจ็บขนาดนี้เลยหรือ ? จนกระทั่งได้ยามา ฉันเข้าไปดีขึ้น ท่านก็ถอนหายใจเฮือก วาระของกรรมถ้ามาถึงก็ต้องรับ โดยปกติแล้วลูกศิษย์จะไปตรวจสุขภาพให้ท่านเกือบทุกวัน อยู่ ๆ จะไปนอกเขาก็ไม่บอกไม่กล่าว
หมายเหตุ :
*พระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์(อำพัน อาภรโณ ป.ธ.๖) วัดเทพศิรินทราวาส แขวงยศเส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
**Colbenemid
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-02-2012 เมื่อ 19:25
|