พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยที่ทหารติดตามพระเจ้าตากออกรบกัน ตอนช่วงนั้นพระเจ้าตากมีทหารคู่พระทัยอยู่ ๑๐ ท่านด้วยกัน ท่านทั้งหลายเหล่านี้รบไปรบมากลายเป็นพระยากันหมด มีพระยาศรีสิทธิสงคราม พระยาสามเมืองระย่อ พระยาพนอราชบาท พระยาไพรีพินาศ พระยาพิฆาตไพรี พระยาพิชัยสงคราม เป็นต้น
มีศึกอยู่ครั้งหนึ่งพม่ามาตี จึงยกทัพออกไปตั้งค่ายรับ ปรากฏว่าตั้งค่ายเสร็จม้าเร็วก็ยังไม่มาแจ้งว่ากองทัพพม่าอยู่ที่ไหน แปลว่ายังห่างจากพม่าอยู่ ท่านพระยาทั้งสิบก็ “เฮ้ย..ไปหาหวากกินกันหน่อย” อันนี้เป็นเรื่องนอกประวัติศาสตร์นะ ถือว่าเล่านิทานให้ฟัง
เด็กสมัยนี้คงไม่รู้จัก "หวาก" จริง ๆ แล้วก็คือกระแช่หรือน้ำตาลเมานั่นแหละ ขาไปนั่งคานหามไปอย่างโก้เลย เพราะว่าพระยาจะมีคานหามประจำตำแหน่ง พอไปถึงบ้านที่มีหวากขายก็ไล่ทหารรับใช้กลับ ถามว่าทำไมถึงไล่กลับ ท่านบอกว่า “เมาเหมือนหมา..เดี๋ยวคนจะไม่เคารพ” ต้องไล่กลับก่อนแล้วค่อยเมา
พอกินกันหัวทิ่มหัวตำเรียบร้อยดีแล้วค่อยกลับค่าย ผลปรากฏว่ามาเอาค่ำแล้ว..ค่ายปิด กลางคืนค่ายปิดนี่อย่าไปเรียกให้เปิดนะ..หัวขาดเลย เพราะกลัวว่าข้าศึกจะปลอมตัวมาหลอกให้เปิดค่าย ท่านทั้งสิบก็ไปซุกนอนอยู่กับทหารยาม
เมาก็เมา ง่วงก็ง่วงเลยนอนเพลิน ฟ้าสว่างโร่ทัพพม่ายกโผล่มาชายทุ่งแล้ว คราวนี้ต้องตาลีตาเหลือกลุก อาวุธก็ไม่มี คว้าดาบพลทหารได้ก็วิ่งดาหน้าเข้าหากองทัพพม่า บอกพลทหารว่าให้รีบไปแจ้งพระเจ้าตากให้ยกทัพมาช่วย เป็นการรบที่พร้อมเพรียงมาก ๑๐ กองทัพออกพร้อมกันหมดเลย กำลังพล ๑๐ นาย ไม่มีลูกน้องแม้แต่คนเดียว..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-02-2012 เมื่อ 16:53
|