ดูแบบคำตอบเดียว
  #125  
เก่า 26-12-2011, 10:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,865 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อรรถกถาจารย์ท่านเปรียบ ๑ รอบอันตรกัปเอาไว้ว่า ถ้ามีภูเขาหินล้วน ๑ ลูก กว้าง ๑ โยชน์ ยาว ๑ โยชน์ สูง ๑ โยชน์ ๑ โยชน์เท่ากับ ๑๖ กิโลเมตร ก็แปลว่าภูเขาหินล้วนนั้นหน้าตาเหมือนลูกเต๋า กว้าง ๑๖ กม. ยาว ๑๖ กม. สูง ๑๖ กม. ระยะเวลาผ่านไป ๑๐๐ ปี เทวดาเอาผ้าเนื้ออ่อนเหมือนสำลีมาเช็ดครั้งหนึ่ง ผ่านไปอีก ๑๐๐ ปีมาเช็ดครั้งหนึ่ง เช็ดจนภูเขาลูกนั้นสึกเสมอพื้นจึงได้ ๑ อันตรกัป แล้ว ๖๔ อันตรกัป ถึงจะได้ ๑ อสงไขยกัป

คำว่า "อสงไขย" มาจากบาลีว่า อสํขยา แปลว่า นับไม่ได้ แต่ความจริงแล้วเรื่องของพระ พรหมหรือเทวดา ท่านอยู่ในเขตของความเป็นทิพย์ ท่านรู้ว่าเป็นระยะเวลายาวนานแค่ไหน ที่บอกว่านับไม่ได้หมายถึงคนทั่วไปนับไม่ได้ และที่นับไม่ได้เพราะว่าอยู่ไม่นานถึงขนาดนั้น

๖๔ อันตรกัป เท่ากับ ๑ อสงไขยกัป ๔ อสงไขยกัป เท่ากับ ๑ มหากัป ก็แปลว่า ๒๕๖ อันตรกัปถึงเท่ากับ ๑ มหากัป เราต้องเช็ดภูเขาหินให้สึกเสมอพื้นไป ๒๕๖ ลูก จึงจะได้ ๑ มหากัป เช็ดทีละลูกนะ ไม่ใช่เช็ดรวดเดียว แล้วระยะเวลาที่ผ่านไป ๔ อสงไขยของมหากัปกับอีกหนึ่งแสน พระพุทธเจ้าของเจ้าถึงได้ตรัสรู้ เป็นระยะเวลายาวนานขนาดไหน ? โอกาสที่จะได้ฟังธรรมถึงได้ยากขนาดนั้น

แล้วข้อที่ยากที่สุดข้อสุดท้ายก็คือ กิจฺโฉ พุทฺธานมุปฺปาโท การเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้านั้นยากเหลือแสน พวกเราถือว่าโชคดีมาก ๆ ที่ยังเกิดทันพระพุทธศาสนา เพราะฉะนั้น..อย่าทิ้งโอกาสความโชคดีของตัวเอง เร่งขวนขวายให้เต็มที่ เมื่อถึงเวลาความดีจะได้ส่งผลให้พวกเราเกิดในสถานที่ดี ๆ ได้พบกับพระพุทธศาสนาอีก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2011 เมื่อ 18:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา