มีผู้พิการทางสายตาเดินทางมาทำบุญที่บ้านวิริยบารมีหลายท่าน พระอาจารย์จึงกล่าวว่า "พวกเราเสียท่าเขา เพราะเวลากลางคืนไม่มีไฟแล้วพวกเราไปไม่เป็น อย่างโยมหลายท่านนี้ ทั้งกลางคืนกลางวันก็เหมือนกัน ไปได้หมด
นึกถึงนิทานเซนที่ว่า มีคนตาบอดคนหนึ่งเดินทางเวลากลางคืน แล้วถือตะเกียงไปด้วย มีแต่คนหัวเราะเยาะเขาว่า ตาบอดถือตะเกียงจะมีประโยชน์อะไร ? เขาบอกว่าที่เขาถือตะเกียงก็เพื่อให้คนตาดีมองเห็นเขา เขาเองทั้งกลางวันกลางคืนก็ไปได้ แต่เวลากลางคืนพอไม่มีไฟแล้วคนตาดีเดินชนเขาอยู่เรื่อย เพราะฉะนั้น..เขาก็เลยต้องถือตะเกียงให้คนตาดีเห็นเขา ฟังแล้วอนาถเป็นบ้าเลย..(หัวเราะ)..
บุคคลที่อายตนะส่วนใดส่วนหนึ่งบกพร่อง เขาจะพัฒนาส่วนอื่นขึ้นมาแทน ลักษณะอย่างนี้เกือบจะเป็นทิพจักขุญาณ คือสามารถรู้ได้โดยไม่ต้องใช้สายตา ขอฝากความคิดนี้ไปให้นายกสมาคมคนพิการทางสายตาแห่งประเทศไทยว่า ลองหาทางเปิดหลักสูตรฝึกผู้พิการทางสายตาให้ใช้ทิพจักขุญาณแทน แล้วเขาจะทำได้ดีและทำได้ง่ายกว่าด้วย เพราะเขาเคยชินกับการไม่ต้องใช้สายตาอยู่แล้ว
ถ้าเป็นอย่างนั้น เรื่องของมโนมยิทธิของเขาจะแม่นกว่าเราเยอะ ต่อไปเราก็จะมีกองกำลังสนับสนุนพระพุทธศาสนาที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ เพราะว่าเป็นความสามารถพิเศษของพวกเขาเอง พูดง่าย ๆ ว่าพวกเขาเป็นกันอยู่แล้วทุกคน เพียงแต่ว่าซักซ้อมให้คล่องตัวขึ้นเท่านั้น"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-12-2011 เมื่อ 12:49
|