ถาม: (ถามเรื่องพระพุทธบาท ๔ รอย)
ตอบ: สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ต้นกัป คือ
สมเด็จกกุกสันโธพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ท่านตั้งใจประทานรอยพระพุทธบาทไว้ให้หมู่มนุษย์และเทวดาได้บูชา ท่านก็เล็งว่าตรงจุดนั้นเหมาะที่สุด เพราะว่ากาลต่อไปข้างหน้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง ๕ องค์ ก็จะไปประทับรอยไว้ที่นั่น พระองค์ท่านจึงตั้งพระทัยอธิษฐานเหยียบรอยพระบาทเอาไว้
องค์ที่สองคือ
สมเด็จโกนาคมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไปเหยียบรอยพระบาทเอาไว้
องค์สมเด็จกัสสปพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไปเหยียบเอาไว้ จนกระทั่งถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
ในสมัยนั้นยังเป็นพื้นที่ป่าอยู่ จนปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นป่าอยู่ เพียงแต่ว่าหนทางดีขึ้น เมื่อถึงวาระที่สมควรแล้ว เทวดาที่รักษาที่นั่นก็แปลงเป็นเหยี่ยวใหญ่ มาถึงก็คว้าเอาสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านไป บินขึ้นไปยอดเขา เดี๋ยวก็มาเอาแล้วบินขึ้นไปยอดเขา ชาวบ้านก็โกรธ..ต้องล่าเหยี่ยวตัวนี้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวกินสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านหมด ลูกเป็ด ลูกไก่ จะไม่เหลือ ก็ลุยตามขึ้นไปจนพบรอยพระพุทธบาท
ในเมื่อเจอรอยพระพุทธบาทอยู่ ก็ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ เพื่อให้เป็นที่พอจะสักการบูชาได้ แต่สมัยก่อนเส้นทางสุดสาหัส ต่อให้มีรถขับเคลื่อนสี่ล้อก็อาจไปไม่รอด แต่ปัจจุบันนี้ดีแล้ว เพราะว่าช่วงที่เป็นเนินสูงเขาจะลาดคอนกรีตเอาไว้กันถนนพัง ไม่เช่นนั้นช่วงที่ร่องน้ำลึก ๆ เวลาหน้าฝนรถขับเคลื่อนสี่ล้อก็ยังไปไม่รอด
ถาม: แล้วพอถึงศาสนา
พระศรีอริยะเมตไตรย ?
ตอบ: พระองค์ท่านก็จะไปเหยียบซ้ำอีกครั้ง
รอยพระพุทธบาทของพระศรีอริยะเมตไตรยจะใหญ่ที่สุด เมื่อพระองค์ท่านไปเหยียบ ก็จะทับจนกลายเป็นรอยเดียว ...เคยไปกันบ้างไหม ? อาตมาไปหลายครั้งแล้ว ไปปลายปีที่แล้วไปเจอน้ำขังอยู่ในรอยพระบาท สูงถึงหนึ่งศอกแสดงว่าฝนสาดเข้าไป ก็เลยตักกรอกใส่ขวดกันอุตลุด นาน ๆ ทีจะเจอแบบนี้สักครั้ง
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕