ในขณะที่พระอาจารย์กำลังทำความสะอาดมีดหมอ ท่านกล่าวว่า
"คนใช้อาวุธไม่ว่าจะเป็นมีดหรือปืนจะต้องขยันเช็ดขยันถู ไม่อย่างนั้นสนิมกินหมด นี่ยังดีว่ามีดนี้เป็นเหล็กปลอดสนิม แต่ก็ไว้ใจไม่ได้ เพราะว่าถ้ามีความชื้นนาน ๆ ก็อาจจะเป็นสนิมได้ หลักการดูแลพวกมีด ฝรั่งเขาสรุปว่า Clean & dry คือต้องทำให้สะอาดและแห้ง
มีดด้ามนี้ใบมีดน่ากลัวมาก ถ้าคนใช้มีดนี้เป็นจะเป็นอาวุธมหาประลัยเลย เขาใช้วิธีกำแล้วชกเอา เขาไม่แทงหรอก..เสียเวลา ถ้าชกผิดก็ดึงกลับมาแล้วปาดซ้ำ สมัยที่อาตมาเรียนทหารอยู่ เขาสอนว่าเวลาแทงต้องตะแคงมีด ทหารเขาจะจับมีดตะแคงข้าง เพราะว่าถ้าแทงตรง ๆ จะติดซี่โครง แต่พวกเราไม่ต้องไปสนใจหรอก ตรงไหนก็จิ้มไปเถอะ ใช้มีดเป็นก็ป้องกันตัวเองได้ในระดับหนึ่ง
มีดหัวเข็มขัด (เล่มนี้ของบ้านจ่าตุ่มค่ะ)
มีเด็กผู้หญิง ม. ๒ คนหนึ่งจัดการพลขับรถเมล์ที่เมาเหล้าแล้วไปจับหน้าอกเขาด้วยมีด โดนเย็บไป ๕๐ กว่าเข็ม ถ้าเป็นอาตมาละก็..ไอ้นั่นโดนเย็บเป็นร้อยเข็ม..! เด็กผู้หญิงเขาเลื่อนมีดคัตเตอร์จนสุดแล้วใช้ฟันเอา มีดคัตเตอร์ใช้อย่างนั้นไม่ได้หรอก เพราะใบมีดไม่แข็งแรงพอ ต้องเลื่อนออกมาสักครึ่งหนึ่งแล้วใช้กรีด แต่นั่นเขาใช้ฟันจนใบมีดหักเลย
ส่วนมีดเล่มนี้ทำมาจากเขาสัตว์ ๒ ชนิด มีเขาวัว เขาควาย และงาช้าง คนทำเขารักงานของเขา ในเมื่อเขารักงานของเขา มีดแต่ละเล่มเขาก็ทำออกมาให้ดีที่สุด เรียกได้ว่ามี ฉันทะ คือความพอใจของเขาเต็มที่อยู่แล้ว วิริยะ ความพากเพียรทำ แต่ละเล่มเขาทำเป็นเดือน ๆ กว่าจะเสร็จ จิตตะ กำลังใจจดจ่ออยู่กับงาน ไม่เสร็จไม่เลิก วิมังสา ทบทวนอยู่บ่อย ๆ ว่าที่ทำไปนั้นดีพอหรือยัง มีแบบไหนที่จะสวยกว่านี้ ดีกว่านี้อีก จะว่าไปแล้วตัวเครื่องแห่งความสำเร็จ คืออิทธิบาทธรรม ทั้ง ๔ ข้อ ต้องมีอยู่ในทุกคน เพียงแต่ว่ามีอยู่แบบรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง
มีดเล่มนี้เขาเรียกว่าทรงหลังค่อม (Hump back) จะมีทรง Drop Point คือทรงปกติ มีแบบมีดพกซ่อน แล้วก็มีทรงเปอร์เซียน ที่ใบมีดโค้ง ๆ เหมือนดาบของชาวเปอร์เซีย"
มีดพับทรง Drop point (เล่มนี้ของบ้านจ่าตุ่มค่ะ)
ลักษณะมีดพกทรง Drop point (เล่มนี้ของบ้านจ่าตุ่มค่ะ)
ลักษณะมีดพกทรงเปอร์เซียน ด้ามเขากวางอิมพาลา (เล่มนี้ของบ้านจ่าตุ่มค่ะ)