"ตอนไปอยู่วัดหนองบัวที่พม่า ตื่นเช้าขึ้นมาก็เก็บของลงย่ามเรียบร้อยทุกวัน ครูบาน้อยเห็นเข้าก็สงสัย ถามว่า “อาจารย์ทำไมต้องเก็บด้วย เดี๋ยวก็ต้องเอาออกมาอีก ?” ก็ตอบไปว่า “หลวงพ่อสอนไว้ ” ว่าต้องพร้อมอยู่เสมอที่จะเดินทาง ไม่อย่างนั้นไปกับหลวงพ่อเฉพาะย่ามมาเยอะแล้ว..!
ที่ขำที่สุดคือหลวงพี่ฐิติ งานรองของหลวงพี่ฐิติก็คือเข้าครัว พี่เขาชอบทำกับข้าว ถ้าวันไหนมีเมนูขาหมูนี่เชิญพี่ฐิติเข้าครัวเลย ฝีมือสุดยอด วันนั้นหลวงพ่อท่านจะไปจันทบุรี เวรที่จะไปกับหลวงพ่อถ้าจำไม่ผิดก็จะมีหลวงพี่วิรัช หลวงพี่บัญชา หลวงพี่ฐิติแล้วก็ท่านน้อย (อภิชัย) ทั้งหมด ๔ รูป เขาจะจัดเป็นเวรผลัดกันไปที่ละ ๔ รูป
ปกติหลวงพ่อท่านจะออกตอน ๗ โมงทุกครั้ง ตอนนั้น ๐๖.๔๕ น.แล้ว หลวงพี่ฐิติยังนั่งโซ้ยข้าวต้มกับพวกเราเลย อาตมาก็บอกว่า “พี่..ไปเถอะ เดี๋ยวไม่ทันป๋า” ท่านก็บอกว่า "ทันอยู่แล้ว หลวงพ่อท่านนัดไว้ ๗ โมง"
สรุปว่าครั้งนั้นมีท่านน้อยไปทันคนเดียว หลวงพี่บัญชากับหลวงพี่วิรัชก็ตกรถด้วย เพราะเชื่อหลวงพี่ฐิติ สำหรับหลวงพ่อถ้าท่านลงมาแล้วขึ้นรถ แปลว่าออกเลย เพราะฉะนั้น..เรื่องเวลามีแต่ก่อน ไม่มีหลัง อาตมาก็ชักจะติดนิสัยนี้
วันก่อนที่วัดถ้ำป่าอาชาทองเกือบจะทิ้งหลวงพี่นิลไปแล้ว ไปด้วยกันแท้ ๆ อาตมาลุกแล้ว ลงไปลาพระผู้ใหญ่แล้ว ลาครูบาเหนือชัยแล้ว เดินลงมาถึงรถมีแต่โยมตามมา หลวงพี่นิลยังไม่มา เลยบอกให้คนวิ่งไปตามหน่อย ท่านคงไม่รู้ว่าอาตมาลงมาแล้ว
โยมที่เดินทางไปด้วยกันนี่เขาจะคอยเล็งอยู่เสมอ ถ้าเขาเห็นอาตมาขยับ เขาก็วิ่งตามเลย เพราะรู้ว่าไม่มีการรีรอ โยมรุ่นเก่า ๆ โดนทิ้งมาเยอะแล้ว ไกลขนาดเชียงใหม่ลำพูนก็ทิ้ง ให้นั่งรถกลับเองสักครั้งสองครั้งเดี๋ยวก็เข็ดไปเอง แล้วก็ยังมีหน้ากลับมาหัวเราะคิกคัก ๆ กันอีกว่าใครโดนทิ้งบ้าง นอกจากจะไม่โกรธแล้วยังสนุกมากเลยที่โดนทิ้ง..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-10-2011 เมื่อ 16:46
|