"...จิตใจที่บริจาคเงินสำหรับช่วยเพื่อนร่วมชาติ ด้านหนึ่งก็จะทำให้เพื่อนได้มีความเดือดร้อนน้อยลงได้ จึงทำให้ส่วนรวมดีขึ้น และด้านท่านผู้ที่บริจาคทรัพย์เพื่อการกุศล นับว่าเป็นการขัดเกลาจิตใจของตัวให้มีความเสียสละ
ทุกคนที่เกิดมาโดยเฉพาะในเมืองไทย ถ้ามีคุณสมบัตินี้ มีความเสียสละในใจ ก็นับว่าเป็นคนที่ดีมีความสามารถ ส่วนความเสียสละนั้นก็เหมือนว่าเป็นสิ่งที่ไม่ฉลาด เพราะว่าเมื่อเราเสียสละทรัพย์เราก็จนลงไป ทำไม คนเราโดยทั่วไปก็ต้องการความร่ำรวยว่าเป็นสิ่งที่ดี และเป็นสิ่งที่ทำให้มีความอยู่เย็นสบายได้ เพราะว่าท่านทั้งหลายมีเงินมีทรัพย์มาก ก็ย่อมมีฐานะร่ำรวยมีความสุข การสละทรัพย์ก็เท่ากับทำให้ท่านจนลงไป เท่ากับได้สร้างความทุกข์แก่ตัว
แต่อันนี้ในทางวัตถุอาจจะเป็นอย่างนั้น ถ้าเรามีเงินก็สามารถที่จะไปซื้อของที่ต้องการ เท่ากับบำรุงความสุขให้กับตัวเอง ถ้าไม่มีเงินที่จะซื้อของ ก็เห็นจะเป็นความทุกข์เพราะอยากได้ แต่ว่าอันนี้เป็นเรื่องของวัตถุ ถ้าหากว่าเรามีทรัพย์พอสมควรและก็สละไปบ้าง มิได้สร้างความทุกข์แก่ตัว
ตรงกันข้ามเป็นการสร้างสมในอนาคต เพราะจิตใจของเราเรื่องความเสียสละเป็นเรื่องของจิตใจ ถ้าฝึกความเสียสละเท่ากับเราฝึกความเข้มแข็งของตัวเรา สามารถที่จะมีความเข้มแข็งพอที่จะสละ และบางคราวเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เรียกว่าเป็นทาน เพราะว่าจิตใจเราเป็นสิ่งที่แปลก ถ้าอยู่เฉย ๆ บางทีเราก็ดูเหมือนมีความรู้สึกเฉย ๆ ได้ แต่เฉย ๆ ไป เฉย ๆ มา ชักจะมีความเบื่อหรือความไม่สบายใจ ความไม่สบายใจนี้เป็นสิ่งที่ไม่ปรารถนา ต้องมีความสบายใจ และเพื่อได้ความสบายใจนั้นก็ต้องฝึกที่จิตใจ การเสียสละนั้นเป็นการฝึกใจอย่างหนึ่ง
การแผ่เมตตาก็คือเมตตาผู้อื่น ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้จิตใจเบิกบานได้ ถ้าจิตใจนั้นเบิกบาน สว่าง แล้วก็มีความสุขอยู่ไม่น้อย การเสียสละบริจาคทรัพย์เพื่อการกุศลนั้นจะได้ทั้งสองอย่าง คือกำลังใจที่จะสละ และมีกำลังความสว่างของเมตตา ความสุขของเมตตาที่เราแผ่ออกไป..."
|