"สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เป็นพระราชธิดาพระองค์เดียวในรัชกาลที่ ๖ ในหลวงรัชกาลที่ ๖ ทรงตั้งปณิธานเอาไว้ว่า จะปฏิบัติตนแบบอารยชน ตามที่พระองค์ท่านได้ทรงศึกษามาจากตะวันตก พูดภาษาชาวบ้านก็คือจะมีผัวเดียวเมียเดียว แต่งงานกับใครก็ให้มีการจดทะเบียนสมรส เพื่อให้มีการรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
แต่พระองค์ท่านเมื่ออภิเษกสมรสแล้ว ไม่มีทั้งพระโอรสทั้งพระธิดา ก็ต้องทรงหย่า แล้วก็อภิเษกสมรสใหม่ จนกระทั่งมาถึงสมเด็จพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ถึงได้มีพระประสูติกาล แต่ว่าเป็นพระราชธิดา ช่วงนั้นพระองค์ท่านรอคอยว่าจะมีผู้สืบราชสมบัติหรือไม่ ทั้ง ๆ ที่พระอาการประชวรหนักมากแล้ว
พอเจ้าพระยารามราฆพแจ้งว่าสมเด็จพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี มีพระประสูติกาลแล้ว แต่ไม่ได้เสียงประโคม พระองค์ท่านก็ทราบทันทีว่าเป็นพระราชธิดา เพราะถ้าเป็นพระเจ้าลูกยาเธอจะมีการประโคมแตรสังข์ ฆ้อง กลอง มโหระทึก ตามขนบธรรมเนียมราชประเพณี พระองค์รับสั่งเป็นครั้งสุดท้ายว่า “ลูกผู้หญิงก็ดีเหมือนกัน” แล้วก็หมดพระสติ หลังจากนั้นไม่นานก็เสด็จสวรรคต
พระมเหสีในรัชกาลที่ ๖ ที่ได้รับการสถาปนาก็มีสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา, สมเด็จพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ส่วนพระนางเธอลักษมีลาวัณ ไม่ได้รับการสถาปนา ต้องเรียกว่าเลื่อนพระยศให้ แต่ไม่ถึงระดับสมเด็จพระนางเจ้า สรุปแล้วว่าพระองค์ท่านถึงจะมีพระมเหสีหลายองค์ แต่ว่าทรงจดทะเบียนสมรสครั้งละ ๑ องค์เท่านั้น พอเห็นว่าไม่มีพระโอรสพระธิดาจริง ๆ ถึงได้ทรงหย่า แล้วก็ทรงจดทะเบียนสมรสกับพระองค์ใหม่
พระองค์ท่านทำเป็นตัวอย่างให้ไพร่ฟ้าประชากรทั้งหมดในเรื่องของการมีผัวเดียวเมียเดียว ในเมื่อพระองค์ท่านทำตัวเป็นตัวอย่างแล้ว ใครที่คิดจะมีหลาย ๆ คนก็ต้องคิดให้ดีว่าเลี้ยงไหวหรือเปล่า?"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 28-08-2011 เมื่อ 04:00
|