ดูแบบคำตอบเดียว
  #75  
เก่า 26-08-2011, 05:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,066 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สมัยนี้ได้ยินบ่อย ๆ เขาบอกว่าคนนี้ไปวิปัสสนา บางคนก็บอกว่าสมถะก็พอ
ตอบ : สำคัญว่าทำเป็นหรือเปล่า ? สมถะเหมือนกับคนที่มีร่างกายแข็งแรง เพาะกำลังไว้มาก วิปัสสนาเหมือนคนที่มีอาวุธที่มีความแหลมคมมาก

ถ้าร่างกายแข็งแรงแต่ไม่มีอาวุธ กว่าจะฟันฝ่าผ่านอุปสรรคไปได้ก็ลำบาก คนที่มีอาวุธแต่ร่างกายไม่แข็งแรง ยกอาวุธก็ยังไม่ขึ้น จะไปถากถางอุปสรรคขวางหน้าได้อย่างไร ? เพราะฉะนั้น..สองอย่างนี้ต้องทำรวมกัน พอทำรวมกันมีร่างกายที่แข็งแรง มีอาวุธที่คมกล้า ก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ง่าย

คราวนี้การปฏิบัติแทบทั้งหมดจะจัดอยู่ในสมถภาวนา ในส่วนของวิปัสสนาภาวนาเป็นการใช้ปัญญา พิจารณาให้รู้เห็นความเป็นจริงว่าสภาพร่างกายนี้ โลกนี้ และสรรพสิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง สลายไปในที่สุด ถ้าเราไปยึดถือมั่นก็จะเกิดความทุกข์แก่เรา เพราะว่าไม่เหลืออะไรให้เรายึดถือเป็นตัวเป็นตนมั่นหมายได้ ท้ายสุดทุกอย่างก็พังสลายไปหมด

ถ้าเราเห็นจริง จิตใจยอมรับ ไม่ไปดิ้นรน ก็จะเกิดความสุข เพราะว่าการเกิดมาในโลกนี้ก็เหมือนกับคนติดคุก ถ้าเราไปดิ้นรนพุ่งชนประตูจะออกไปให้ได้ ไม่หัวแตกตัวช้ำก็อาจจะเสียชีวิตไปเลย แต่ถ้าเรารู้แล้วว่าไม่มีทางออกไปไหนได้ ถึงเวลาเขาก็มาเปิดประตูปล่อยเราไปเอง เราแค่นั่งเฉย ๆ ก็สบายดี การเปรียบว่านั่งเฉย ๆ หมายถึงสภาพจิตยอมรับ ไม่ไปดิ้นรน เพราะว่ามีปัญญารู้ว่าไม่ช้าก็จะพ้นไปแล้ว

ดังนั้น..ในเรื่องของวิปัสสนาก็คือการรู้เห็นตามความเป็นจริงแล้วยอมรับ เมื่อปัญญายอมรับก็ปล่อยวางทุกอย่างได้ ภาระที่แบกไว้ทั้งหมด โดยเฉพาะร่างกายที่เป็นภาระหนัก ก็เท่ากับว่าไม่ได้แบกอะไรไว้ เพราะจิตใจปล่อยวางไปแล้ว

แต่ว่าในเรื่องของสมถะก็คือการที่เราเพาะร่างกายให้แข็งแรงพร้อมที่จะแบกภาระเหล่านั้น แม้ว่าจะแบกไหวแต่ก็ยังหนักอยู่ดี ดังนั้น..สองอย่างต้องทำด้วยกัน คือแข็งแรงแล้ววางภาระได้ยิ่งไปง่ายใหญ่เลย เพราะไม่มีอะไรให้แบกหนัก ตัวเราแข็งแรงอยู่แล้วก็ยิ่งเดินทางไปถึงจุดหมายได้ง่ายขึ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2011 เมื่อ 15:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา