“...เรื่องคัมภีร์ทำมาอย่างถูกต้องอย่างดีแล้ว ก็ต้องมีความระมัดระวังอย่างดี อย่าไปนึกว่าทำคัมภีร์แล้วคนจะบรรลุหมด ไม่เป็นเช่นนั้น หรือแม้แต่ผู้ที่ทำเองก็อาจจะไม่บรรลุ เพราะว่าธรรมะที่อยู่ในคัมภีร์นั้นเป็นธรรมะที่ดีอยู่แล้ว แต่ถ้าเราไม่ได้รับมาใส่จิตเรา ไม่ได้รับมาพิจารณา ไม่ได้มาดูเทียบเคียงกับจิตของเรา ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
ดังที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ในที่ต่าง ๆ ว่า พระพุทธเจ้าจะไม่สามารถให้แต่ละคนพ้นสงสัยได้ มีผู้ไปขอให้พระพุทธเจ้าทำให้ตนพ้นสงสัย ท่านก็บอกว่าทำให้พ้นสงสัยไม่ได้ ไม่มีทาง เพราะว่าแต่ละคนจะต้องพ้นสงสัยเอง จะต้องปฏิบัติด้วยตนเอง ตำราก็ชี้ให้คนพ้นสงสัยไม่ได้ ชี้ให้คนสำเร็จบรรลุไม่ได้ ต้องผู้นั้นปฏิบัติเอง
แต่ว่าตำราก็ช่วยได้ พระพุทธเจ้าช่วยได้ เช่นเดียวกันกับที่เรานั่งอยู่ในห้องนี้ ถ้าเราไม่ทราบว่าจะออกจากห้องนี้อย่างไร ก็มีผู้ชี้ว่านี่ประตู ออกจากประตูนี้แล้วก็ผ่านอีกประตูหนึ่ง ไปที่ทางบันไดก็ก้าวลงไป ออกไปข้างนอก ไปที่รถของตน ๆ
ถ้าไม่มีใครบอกก็อาจจะลืมว่า จากห้องนี้จะไปทางไหน ออกจากประตูนี้แล้วจะเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา อาจจะลืม อาจจะไม่เห็น แต่ว่าการที่จะออกไปจริง ๆ นั้น กายและใจของตัวเองจะต้องออกไปเอง ถ้าตัวเองทราบทางแล้วแต่ไม่ออก กายไม่ออกใจไม่ออกก็ไม่เกิดผล ก็นั่งอยู่ที่นี่ นั่งอยู่ที่นี่แล้ว ก็ไม่ได้กลับบ้าน ไม่ได้ไปรับประทานอาหารที่บ้าน ก็นั่งอยู่ที่นี่จนหิวจนจะเป็นลม คนอื่นทำอะไรให้ไม่ได้ ต้องพาตัวออกไปเอง คนอื่นจะบอกจะเนรมิตให้ออกไปไม่ได้..."
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ป้านุช : 04-08-2011 เมื่อ 06:40
|