"ถ้าหากเราท้าพิสูจน์ไม่ได้นี่เสียหายมาก พอถึงเวลาคนท้าพิสูจน์เมื่อไรจะเกิดอาการตื่นเต้น ตอบผิดตอบถูก ลักษณะแบบเดียวกับพระที่วัดท่าขนุน พระครูน้อย อาจารย์สอนมโนยิทธิเลย พอหยิบขนมปังขึ้นมา อาตมาก็คว้ามือไว้ "เดี๋ยว..อย่าเพิ่งฉัน ไส้ในสีอะไร ?" ท่านตอบว่า "สีขาวมั้ง ?" เพราะเห็นว่าขนมปังแบบนี้ไม่น่าจะมีไส้ อาตมาบอกว่า "ผิด..สีเขียวว่ะ" พอแกะออกมากลายเป็นขนมปังไส้สีเขียว พระครูน้อยร้อง "ไม่จริ๊ง..!" ไม่จริงอะไร ก็เห็นคาตาอยู่
พอวันรุ่งขึ้นก็ถามอีก "วันนี้ไส้ในสีอะไร ?" ท่านก็ลังเล "สีเขียวมั้ง ?" อาตมาบอกว่าไม่ใช่ พอลองแกะดูเป็นไส้เผือกสีม่วง เพราะฉะนั้น...ที่วางแผนไว้ตอนอยู่วัดท่าซุงก็ยังไม่ได้ใช้ เพราะออกจากวัดมาก่อน ส่วนที่วัดท่าขนุน ถ้าหากอาตมาฝึกพระที่นี่ก็เหมือนกับไปแข่งกับสำนักใหญ่ ไม่ใช่เรื่องดี ฉะนั้น..ใครฝึกแล้วติดขัดตรงไหน มาถามได้
เรื่องของมโนมยิทธิ สำคัญตรงฝึกซ้อมบ่อย ๆ ถ้าขาดการฝึกซ้อมเมื่อไรก็สนิมกิน โดยเฉพาะอย่าเผลอลืมในเรื่องการตัดร่างกาย ถ้าเผลอความชัดเจนจะหมดไปทันทีเลย ต้องเห็นให้ชัดเจนเสมอว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา พอใจไม่เกาะในร่างกาย ความสะอาดของจิตมีมาก การรู้เห็นก็จะชัดเจนมาก "
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 30-01-2019 เมื่อ 21:30
|